ภาพการประชุม (VNA)

การประชุมนี้มีความหมายสำคัญ เน้นประเมินสถานการณ์และผลงานที่ได้บรรลุในด้านต่างๆ ในปี 2024 ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม เผยว่า นอกจากการฟื้นตัวที่น่ายินดีของเศรษฐกิจโดยอัตราการขยายตัวอยู่ในระดับสูง ในปี 2024 เศรษฐกิจมหภาคมีเสถียรภาพ ภาวะเงินเฟ้อได้รับการควบคุมเป็นอย่างดี สามารถค้ำประกันความสมดุลต่างๆ ของเศรษฐกิจ สวัสดิการสังคมได้รับการปรับปรุงอย่างเห็นได้ชัด ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้รับการยกระดับให้ดีขึ้น การเมืองและสังคมมีเสถียรภาพ กลาโหมและความมั่นคงได้รับการส่งเสริม สร้างพื้นฐานที่สำคัญให้แก่การพัฒนาอย่างยั่งยืน การต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกได้รับการผลักดัน ขชื่อเสียงของเวียดนามบนเวทีโลกได้รับการขยายและเสริมสร้าง เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ยังย้ำว่า ปี 2025 มีความหมายสำคัญเป็นพิเศษ เพราะเป็นปีสุดท้ายในการปฏิบัติแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในระยะ 5 ปีตั้งแต่ปี 2021-2025 จึงต้องการทำการเปลี่ยนแปลงใหม่ด้านเศรษฐกิจต่อไป พร้อมทั้งกำชับให้รัฐบาลและท้องถิ่นต่างๆ ต้องเน้นลงทุนให้แก่การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้มีความสมบูรณ์และปฏิบัติภารกิจการปฏิรูปโครงสร้างของเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพและจริงจังมากขึ้นพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบการขยายตัวเพื่อเพิ่มทักษะความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

“พัฒนาแต่ก็ต้องยั่งยืน โดยอาศัยพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนดิจิทัล โดยเฉพาะถือมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เน้นพัฒนาแหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูง สร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยให้แก่สถานประกอบการสตาร์ทอัพ นวัตกรรมและสร้างมูลค่าเศรษฐกิจใหม่ ปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงใหม่การศึกษาและฝึกอบรมในขั้นพื้นฐานและรอบด้าน สร้างก้าวกระโดดในการฝึกสอนอาชีพเพื่อมีแหล่งบุคลากรที่เป็นมืออาชีพ ตอบสนองความต้องการที่นับวันเพิ่มสูงขึ้นของตลาดแรงงานและเงื่อนไขต่างๆ ในกระบวนการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล”

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล่าวปราศรัยในการประชุม (VNA)

ส่วนนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ระบุว่า สถานการณ์เศรษฐกิจสังคมของเวียดนามในปี 2024 ได้มีการฟื้นตัวอย่างน่ายินดี โดยการขยายตัวของจีดีพีได้ช่วยยกระดับขอบเขตและเพิ่มอันดับจีดีพีของเวียดนาม อีกทั้งเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรและผลิตภาพแรงงาน  พร้อมทั้งระบุว่า

“หนึ่งคือต้องตรวจสอบเป้าหมายและมาตรฐานต่างๆ ของปี 2025 โดยเฉพาะเป้าหมายที่ต้องบรรลุในวาระนี้เพื่อทำให้ดีที่สุดและมีมาตรการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมต่อเป้าหมายที่ยังไม่ได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดี สองคือเน้นปรับปรุงภาครัฐให้ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพและจัดวันงานสำคัญหรือกิจกรรมสำคัญๆ ของประเทศให้ประสบความสำเร็จ”.