การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐ
(VOVworld) – ทั้งสองฝ่ายยังยืนยันที่จะเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีภายในปลายปีนี้
|
ท่านเจืองเติ้นซาง ประธานประเทศเวียดนามและประธานาธิบดีสหรัฐ |
(VOVworld) – ตามข่าวที่เราได้เสนอไปแล้วว่า ท่านเจืองเติ้นซาง ประธานประเทศเวียดนามเพิ่งเสร็จสิ้นการเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่๒๔ถึงวันที่๒๖เดือนนี้ตามคำเชิญของนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐด้วยผลสำเร็จอย่างงดงาม แม้การเยือนจะดำเนินไปในเวลาอันสั้นแต่ได้ประสบผลสำคัญ และมีความหมายต่อการกำหนดแนวทางให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในอนาคต ในด้านการเมือง ผลสำเร็จที่โดดเด่นที่สุดของการเยือนคือ ทั้งสองฝ่ายได้กำหนดความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านซึ่งจะนำไปสู่การสร้างกรอบใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่าย ทางด้านเศรษฐกิจ นอกจากคำมั่นที่จะผลักดันการค้าและการลงทุนแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังยืนยันที่จะเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกหรือทีพีพีภายในปลายปีนี้และนอกจากการหารือเกี่ยวกับปัญหาด้านกลาโหม ความมั่นคงและเศรษฐกิจแล้ว การแก้ไขปัญหาด้านความแตกต่าง รวมทั้งปัญหาสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพด้านศาสนาก็ได้ประสบผลสำเร็จที่น่ายินดี ท่านฝ่ามบิ่งมินห์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามกล่าวว่า“ในด้านสิทธิมนุษยชน พวกเราได้แลกเปลี่ยนอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับด้านที่ยังมีความแตกต่างกัน ชี้ชัดนโยบายของเวียดนามในการผลักดันการปกป้องสิทธิมนุษยชน ในการเยือนของประธานเจืองเติ้นซาง ตัวแทนทางศาสนาของเวียดนามได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับฝ่ายสหรัฐ และผู้ที่ให้ความสนใจต่อศาสนาในเวียดนามเพื่อให้ฝ่ายสหรัฐมีความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์เสรีภาพทางศาสนาในเวียดนามซึ่งเป็นผลงานที่สำคัญในการเยือนนี้” ไม่เพียงแต่นำผลประโยชน์มาให้แก่ทั้งสองประเทศเท่านั้น กรอบความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับสหรัฐยังมีส่วนร่วมให้แก่สันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในเอเชีย แปซิฟิกและโลกอีกด้วย ซึ่งประธานเจือนเติ้นซางได้ยืนยันในบทปราศรัยต่อบรรดาวิทยากรและนักวิจัยที่ศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศของสหรัฐว่า“สาส์นที่พวกเราย้ำถึงคือ เวียดนามมีความประสงค์ว่า ทั้งสองประเทศจะขยายความร่วมมือในทุกด้านเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ ร่วมกันมีส่วนร่วมทำนุบำรุงเอเชีย แปซิฟิกที่สันติภาพ เสียรภาพ มีความคล่องตัว และเจริญรุ่งเรือง พวกเราควรพยายามร่วมมือกันบนเจตนามรณ์ให้ความเคารพซึ่งกันและกันและมีความเสมอภาค และประสานผลประโยชน์เพื่อเป้าหมายดังกล่าว” การเยือนสหรัฐของประธานเจืองเติ้นซางที่นำไปสู่การยกระดับความสัมพันธ์เป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านได้รับความสนใจจากประชามติสหรัฐ นายGreg Poling ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงเกี่ยวกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า“หนึ่งในผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ ทั้งสองฝ่ายได้ประกาศกำหนดความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้าน กรอบความร่วมมือนี้จะนำความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ผลสำเร็จอีกประการคือ ประธานาธิบดีบารัก โอบามาได้ตอบรับคำเชิญเดินทางมาเยือนเวียดนามซึ่งแสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้มีก้าวเดินที่ยาวไกลมากขึ้น” ภายใต้เจตนารมณ์“ร่วมกันมุ่งสู่อนาคต ”ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐได้แสดงให้เห็นจากการเยือนนี้ ก่อนที่จะเดินทางออกจากสหรัฐ ประธานเจือเติ้นซางได้มีการพบปะกับครอบครัวอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน เพื่อนมิตรชาวอเมริกันที่ได้ให้การสนับสนุนเวียดนามในอดีต ทหารผ่านศึกของทั้งสองฝ่ายและชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในสหรัฐซึ่งเป็นกองกำลังที่สำคัญมีส่วนร่วมให้แก่กระบวนการผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนาต่อไป./.