ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐนับวันพัฒนาในทุกด้าน

(VOVworld) –  ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐนับวันพัฒนาในทุกด้าน
ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐนับวันพัฒนาในทุกด้าน - ảnh 1
ท่านฝ่ามบิ่งมินห์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม
กล่าวปราศรัยที่ศูนย์ซีเอสไอเอสของสหรัฐ

(VOVworld) –  “พวกเราไม่อาจเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์แต่อาจเปลี่ยนแปลงอนาคตผ่านการร่วมมือกัน” นี่เป็นการยืนยันของท่านฝ่ามบิ่งมินห์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามในบทปราศรัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐที่ศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์และระหว่างประเทศหรือซีเอสไอเอสในกรอบการเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจอห์นแคร์รี ในบทปราศรัยในโอกาสที่ซีเอสไอเอสประกาศรายงานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐภายหลัง๒ทศวรรษที่ปรับความสัมพันธ์เป็นปกติ ท่านฝ่ามบิ่งมินห์ได้บรรยายถึงความก้าวหน้าที่น่าประทับใจของความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐใน๑๙ปีที่ผ่านมาอย่างไม่เคยมีมาก่อน รวมทั้งผู้สนับสนุนการปรับความสัมพันธ์ให้เป็นปกติระหว่างสองประเทศ เช่น รัฐมนตรีจอห์น แคร์รี

            ท่านฝ่ามบิ่งมินห์กล่าวว่า ภายหลังเกือบ๒๐ปีของการปรับความสัมพันธ์เป็นปกติ การค้าต่างตอบแทนอยู่ที่๓หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อปี๒๐๑๓ เพิ่มขึ้นกว่า๑๓๐เท่า ทั้งสองประเทศได้ทำการสนทนาในด้านการเมือง ความมั่นคง กลาโหม แรงงานและสิทธิมนุษยชน นอกจากความก้าวหน้าที่ได้ประสบมา ทั้งสองประเทศกำลังพยายามแก้ไขปัญหาที่ยังคั่งค้างอยู่ เช่น ผลเสียหายจากสารพิษสีส้ม และกับระเบิดที่ยังหลงเหลือจากสมัยสงคราม

            หลังบทปราศรัย ท่านฝ่ามบิ่งมินห์ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ฟังเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐและปัญหาอื่นๆ ในการตอบคำถามของนักข่าวจีนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐและความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับจีน ท่านฝ่ามบิ่งมินห์ได้กล่าวว่า นโยบายของเวียดนามคือมีความสัมพันธ์ต่างประเทศในหลายรูปหลายฝ่ายซึ่งหมายความว่าพัฒนาความสัมพันธ์กับทุกประเทศ เวียดนามได้สถาปนาความสัมพันธ์กับทุกประเทศใหญ่ๆ สำหรับจีนคือความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ส่วนสำหรับสหรัฐก็คือความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้าน

            ต่อคำถามของนักข่าวรัสเซียเกี่ยวกับการพัฒนาอ่าวกามแรง ท่านฝ่ามบิ่งมินห์เผยว่า  เวียดนามมีแนวทางพัฒนาอ่าวกามแรงให้กลายเป็นท่าเรือพลเรือนมิใช่ท่ารือทหารและยินดีกับทุกการสนับสนุนและช่วยเหลือให้แก่การพัฒนาของเขตนี้ ต่อคำถามของผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่งของสถาบันบรุกกิ้งประเทศสหรัฐเกี่ยวกับเส้นประ๙เส้นและเขตเศรษฐกิจจำเพาะในทะเลตะวันออก ท่านฝ่ามบิ่งมินห์ชี้ชัดว่า เส้นประ๙เส้นที่จีนประกาศเพียงลำพังแต่ฝ่ายเดียวนั้นไร้มูลความจริง ตามกฎหมายสากล เขตเศรษฐกิจจำเพาะ๒๐๐ไมล์ทะเลไม่ใช่เขตพิพาทและทุกกิจกรรมณที่นี่ต้องได้รับการอนุญาติของประเทศที่มีเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ ต่อคำถามของวิทยากรท่านหนึ่งของมหาวิทยาลัยจอร์ วอชิงตันเกี่ยวกับอธิปไตยเหนือน่านน้ำทะเลและเกาะแก่งในทะเลตะวันออก ท่านฝ่ามบิ่งมินห์ยืนยันว่า เวียดนามมีอธิปไตยเหนือหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือเสปรตลีย์./.

Nhật Quỳnh Huy Hoàng ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำสหรัฐ


 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด