นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง จะเข้าร่วมการประชุมฟอรั่มเศรษฐกิจโลกและปฏิบัติภารกิจในจีน
(VOVWORLD) -การปฏิบัติภารกิจนี้ของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 24 -27 มิถุนายน
นาย ฝ่ามซาวมาย เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศจีน |
วันที่ 22 มิถุนายน กระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเผยว่า ตามคำเชิญของนาย หลีเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนและนาย เคลาส์ ชวาบ ประธานฟอรั่มเศรษฐกิจโลกหรือ WEF นาย ฝ่ามมิงชิ้ง นายกรัฐมนตรีเวียดนามจะเข้าร่วมการประชุมประจำปีครั้งที่ 15 ของฟอรั่มเศรษฐกิจโลก ณ เมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิงประเทศจีนและปฏิบัติภารกิจในจีนในระหว่างวันที่ 24 -27 มิถุนายน
นาย ฝ่ามซาวมาย เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศจีนเผยว่า การที่ WEF เชิญนายกรัฐมนตรีเวียดนามเข้าร่วมการประชุม 2 ครั้งติดต่อกันได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญและการชื่นชมของ WEF และชมรมสถานประกอบการต่างชาติต่อสถานะ บทบาทและส่วนร่วมของเวียดนามในการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคและโลก นี่เป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามแนะนำผลสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมที่ผ่านมา ภาพลักษณ์ประเทศเวียดนามที่คล่องตัว ผสมผสานอย่างเข้มแข็งและมีแรงดึงดูดใจต่อเครือบริษัทต่างๆในโลก มีส่วนร่วมส่งเสริมความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ระดมแหล่งพลังต่างๆเพื่อพัฒนาประเทศ ผ่านการประชุมนี้ เวียดนามอาจเกาะติดปัญหาและแนวโน้มใหม่ของเศรษฐกิจโลก หารือเกี่ยวกับแนวคิดการพัฒนา ธรรมาภิบาลในระดับประเทศและโลก มีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาร่วมของโลก เช่น ผลักดันการขยายตัว การพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาส ค้ำประกันความมั่นคงด้านอาหาร นี่เป็นโอกาสเพื่อให้เวียดนามผลักดันความสัมพันธ์กับประเทศ หุ้นส่วนและองค์การระหว่างประเทศ ยกระดับสถานะและชื่อเสียงของประเทศ ยืนยันบทบาทการเป็นสมาชิกที่แข็งขัน มีความรับผิดชอบของประชาคมโลก ส่งเสริมความสัมพันธ์ร่วมมือหุ้นส่วนกับ WEF ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งจะมีบทปราศรัยในพิธีเปิด เป็นประธานในการประชุมหารือและการสนทนากับเครือบริษัทใหญ่ เกี่ยวกับโอกาสความร่วมมือ มาตรการแก้ไขปัญหาการพัฒนาโลกและยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจของเวียดนาม นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งจะพบปะกับผู้นำประเทส องค์การระหว่างประเทศและเครือบริษัทต่างๆ
สำหรับการปฏิบัติภารกิจในจีน เอกอัครราชทูต ฝ่ามซาวมายได้ย้ำว่า นี่เป็นโอกาสเพื่อให้ผู้นำทั้งสองประเทศหารือเกี่ยวกับมาตรการปฏิบัติความเข้าใจร่วมที่ได้บรรลุระหว่างผู้นำพรรค รัฐของทั้งสองประเทศ ยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนร่วมมือยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศให้พัฒนาอย่างเข้มแข็งในเวลาที่จะถึง.