นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ให้การต้อนรับรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป

(VOVWORLD) - เมื่อบ่ายวันที่ 5 สิงหาคม ณ ทำเนียบรัฐบาล นาย เหงียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีได้ให้การต้อนรับนาง เฟเดอร์ริกา โมกรีนี รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปและตัวแทนระดับสูงของสหภาพยุโรปหรืออียูที่ดูแลนโยบายด้านการต่างประเทศและความมั่นคง 
นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ให้การต้อนรับรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป - ảnh 1นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ให้การต้อนรับรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (VGP) 

นาย เหงียนซวนฟุก ย้ำว่า เวียดนามจะผลักดันความสัมพันธ์กับอียูในเวลาที่จะถึง อีกทั้งเสนอให้รัฐสภายุโรปอนุมัติข้อตกลงอีวีเอฟทีเอและอีวีไอพีเอโดยเร็วเพื่อแปรโอกาสความร่วมมือและสนับสนุนผลประโยชน์ให้กลายเป็นความจริง และยืนยันคำมั่นของทั้งสองฝ่ายต่อเสรีภาพด้านการค้าและการลงทุน นายกรัฐมนตรีเสนอให้อียูให้การช่วยเหลือเวียดนามปฏิบัติมาตรการแก้ไข และมุ่งสู่การยกเลิก “ใบเหลือง” ต่อเวียดนามในการป้องกันและต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายหรือไอยูยู อำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการเวียดนามขยายตลาดในอียูในด้านที่เวียดนามมีจุดแข็ง เช่นสัตว์น้ำ

นายกรัฐมนตรีมีความประสงค์ว่า ความสัมพันธ์อียู-อาเซียน ตลอดจนความร่วมมือเวียดนาม-อียูในกรอบพหุภาคีจะได้รับการผลักดันในปี 2020 เมื่อเวียดนามดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนและสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ พร้อมทั้งย้ำว่า เวียดนามชื่นชมทัศนะของอียูที่สนับสนุนเสรีภาพ ความมั่นคงและความปลอดภัยในการเดินเรือในทะเลตะวันออก เสนอให้อียูธำรงทัศนะในการให้ความเคารพกฎหมายสากล อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลหรือ UNCLOS ปี 1982 แก้ไขการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติ ไม่มีปฏิบัติการที่ทำให้สถานการณ์มีความซับซ้อน มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ เสรีภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยในการเดินเรือและการบินในทะเลตะวันออก

นาง เฟเดอร์ริกา โมกรีนี ได้ยืนยันว่า เวียดนามคือประเทศที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในนโยบายการต่างประเทศของอียู และแสดงความหวังว่า ข้อตกลงอีวีเอฟทีเอและข้อตกลงอีวีไอพีเอคือพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีในอนาคต และยืนยันถึงทัศนะที่เข้มแข็งของอียูต่อปัญหาทะเลตะวันออก โดยเฉพาะการให้ความเคารพกฎหมายสากล รวมทั้ง UNCLOS 1982 ค้ำประกันสิทธิเสรีภาพในการเดินเรือและการบิน ซึ่งถือเป็นปัญหาที่ได้รับความสนใจจากประชาคมโลก เพราะนี่คือเส้นทางการเดินเรือระหว่างประเทศที่สำคัญของอียู เอเชียและโลก.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด