การประกาศได้อ้างคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี คริสโตเฟอร์ ลักซอนว่า เวียดนามเป็นดาวรุ่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นหนึ่งในเศรษฐกิจที่พัฒนาอย่างรวดเร็วที่สุดในภูมิภาค ปีนี้ ทั้งสองประเทศรำลึกครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตและการเยือนเวียดนามครั้งนี้จะผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคี ขยายความสัมพันธ์ด้านการค้าและสร้างโอกาสให้แก่สถานประกอบการนิวซีแลนด์ เพิ่มรายได้และสร้างงานทำให้แก่ประชาชนนิวซีแลนด์ ทั้งสองประเทศมีศักยภาพอีกมากเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2026

ในการให้สัมภาษณ์นักข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำออสเตรเลียและโอเชียเนีย นาง Liz Bell ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารสภาธุรกิจอาเซียน-นิวซีแลนด์ได้เผยว่า 

“นิวซีแลนด์มีอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่พัฒนาอย่างเข้มแข็ง นอกจากด้านนี้ นิวซีแลนด์อยากขยายความร่วมมือกับเวียดนามในด้านอื่น ๆ อีก เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ พลังงานหมุนเวียน โครงสร้างพื้นฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งสองประเทศมีศักยภาพอีกมากเพื่อพัฒนา ดิฉันหวังว่า ในกรอบการเยือนนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศจะตั้งเป้าหมายที่สูงขึ้นเพื่อให้สถานประกอบการทั้งสองประเทศต้องพยายามบรรลุ”

คาดว่า ในกรอบการเยือนเวียดนามครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์จะพบปะกับนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งและผู้นำเวียดนามเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ เข้าร่วมฟอรั่มอนาคตอาเซียนในกรุงฮานอยและเยือนนครโฮจิมินห์.

เวียดงา-นักข่าววีโอวีประจำออสเตรเลีย