ปิดการประชุมสุดยอดอาเซมครั้งที่ 11 ณ ประเทศมองโกเลีย

(VOVworld) – การประชุมสุดยอดอาเซมครั้งที่ 11 ได้เสร็จสิ้นลงโดยมีการออกแถลงการณ์ของประธานการประชุมและปฏิญญาอูลานบาตอร์ที่ส่งสาส์นที่เข้มแข็งของผู้นำอาเซียนเกี่ยวกับความตั้งใจขยายความสัมพันธ์ หุ้นส่วนเอเชีย – ยุโรปเพื่ออนาคต

(VOVworld) – เที่ยงวันที่ 16 กรกฎาคม การประชุมสุดยอดอาเซมครั้งที่ 11 ได้เสร็จสิ้นลงโดยมีการออกแถลงการณ์ของประธานการประชุมและปฏิญญาอูลานบาตอร์ที่ส่งสาส์นที่เข้มแข็งของผู้นำอาเซียนเกี่ยวกับความตั้งใจขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนเอเชีย – ยุโรปเพื่ออนาคตผ่านการเชื่อมโยงและวางแนวทางให้แก่ความร่วมมือของอาเซมในเวลาข้างหน้า พร้อมทั้งอนุมัติข้อคิดริเริ่มใหม่ 20 ข้อและจัดตั้งกลุ่มปฏิบัติงานเชิงวิชาการครั้งที่ 20 เพื่อปฏิบัติแนวทางความร่วมมือช่วงปี 2016-2018 ซึ่งเวียดนามได้เสนอความคิดริเริ่มเกี่ยวกับ “การประชุมอาเซมว่าด้วยการศึกษาที่มีความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาแหล่งบุคลากรเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน”

ปิดการประชุมสุดยอดอาเซมครั้งที่ 11 ณ ประเทศมองโกเลีย - ảnh 1
ผู้นำที่เข้าร่วมอาเซม 11(Photo VGP)

ในพิธีปิด สมาชิกทุกคนได้ชื่นชมมองโกเลียที่สามารถจัดการประชุมครั้งนี้จนประสบความสำเร็จและมีความยินดีที่อียูจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซมครั้งที่ 12 ในปี 2018 และพม่าจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศครั้งที่ 13 ในปี 2017 และยืนยันจะประสานงานเพื่อให้การประชุมเหล่านี้ประสบความสำเร็จ
ก่อนหน้านั้น ในวันที่ 2 ของการประชุมฯ บรรดาผู้นำได้เข้าร่วมการประชุม “เสริมสร้างความร่วมมือใน 3 เสาหลักของอาเซม” โดยเน้นหารือเกี่ยวกับปัญหาภูมิภาคและโลก โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสันติภาพ ความมั่นคง ลัทธิก่อการร้าย การอพยพ การไม่เผยแพร่อาวุธนิวเคลียร์และอาวุธทำลายล้างสูง และความมั่นคงในการเดินเรือ เป็นต้น พร้อมทั้งออกประกาศประณามเหตุก่อการร้ายในเอเชีย ยุโรป แสดงความสามัคคีและความเสียใจต่อรัฐบาลและประชาชนฝรั่งเศสจากเหตุโจมตีก่อการร้ายเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา  ตลอดจนประเมินสถานการณ์ที่ซับซ้อนในตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ คาบสมุทรเกาหลี ยูเครน วิกฤตผู้อพยพและผลกระทบจากการถอนตัวออกจากอียูของอังกฤษ และยืนยันคำมั่นที่จะร่วมมือกันเพื่อธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ การเดินเรือและการบินอย่างเสรีและปลอดภัย การค้าเสรี ใช้ความเป็นอดกลั้น ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้ความรุนแรงและปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียวและต้องแก้ไขการพิพาทด้วยสันติวิธีตามกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982
ในการกล่าวปราศรัยในการประชุม นายกรัฐมนตรีเวียดนามเหงียนซวนฟุ๊กได้เรียกร้องให้สมาชิกอาเซมปฏิบัติความตั้งใจทางการเมืองและมีความรับผิดชอบสูง เดินหน้าในการผลักดันกลไกความร่วมมือในระดับภูมิภาค ระหว่างภูมิภาคและระดับโลก ตลอดจนให้ความสนใจถึงมาตรการสร้างสรรค์ความไว้วางใจและการทูตเชิงป้องกัน นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กได้ประเมินว่า ในเวลาที่ผ่านมา อาเซียนได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทการเป็นศูนย์กลางและร่วมมือกับกลไกอื่นๆในระดับภูมิภาคและระหว่างภูมิภาค รวมทั้งอาเซมมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการธำรงบรรยากาศสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค การพิพาทต่างๆต้องได้รับการแก้ไขด้วยสันติวิธีตามกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ให้ความเคารพขั้นตอนทางการทูตและนิตินัยอย่างสมบูรณ์ นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กยืนยันว่า เวียดนามกำลังร่วมมือกับบรรดาประเทศสมาชิกอาเซียนและประชาคมระหว่างประเทศเพื่อมีส่วนร่วมมากขึ้นและมีความรับผิดชอบสูงขึ้น ผลักดันการสนทนาเพื่อธำรงบรรยากาศสันติภาพ ความมั่นคงและความมีเสถียรภาพในภูมิภาคและโลก.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด