ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ และตัวแทนสถานประกอบการเวียดนามในประเทศลาว (VNA)

ในการพบปะกับสถานประกอบการเวียดนาม ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ ได้กล่าวย้ำว่า ข้อเสนอต่างๆของสถานประกอบการฯในการพบปะที่ ประเทศลาวเมื่อปีที่แล้วได้รับความสนใจแก้ไขจากรัฐสภาและรัฐบาลของทั้งสองประเทศ โดยโครงการใหญ่ๆที่มีความร่วมมือระหว่าง 3 ฝ่ายคือระหว่างเวียดนามกับลาวและประเทศหุ้นส่วนพัฒนาได้รับการฟื้นฟู เช่น โครงการเลี้ยงโคนมของบริษัท Vinamilk กับญี่ปุ่น พร้อมทั้งย้ำถึงความตั้งใจของทั้งเวียดนามและลาวในการสร้างก้าวกระโดดด้านการค้าทวิภาคี

“ความปรารถนาของสถานประกอบการที่เป็นความปราถานาของรัฐบาล รัฐสภาและประชาชนของทั้งสองประเทศคือต้องสร้างก้าวกระโดดในการขยายความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคี ปัจจุบัน มูลค่าการค้าต่างตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีการลงทุนประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐแต่ยังไม่มีโครงการใดที่เป็นพลังขับเคลื่อนและยังมีหลายโครงการที่ประสบอุปสรรคในการดำเนินงาน ดังนั้น ความปรารถนาและการชี้นำร่วมกันของทั้งสองประเทศคือ ต้องสร้างก้าวกระโดดให้แก่ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้า”

สำหรับความร่วมมือทวิภาคี ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ เผยว่า ทั้งสองฝ่ายกำลังเตรียมความพร้อมให้แก่โครงการที่เกี่ยวข้องกับท่าเรือหวุงอ๊าง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลาวมีประตูออกสู่ทะเล ก่อสร้างทางรถไฟที่เชื่อมระหว่างลาวกับท่าเรือหวุงอ๊าง เป็นต้น ในด้านคมนาคม ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะแสดงความคิดเห็นว่า ควรเลือกใช้เมือง วิงห์ในจังหวัดเหงะอานเป็นจุดเชื่อมโยงกับถนนไฮเวย์ฮานอย – เวียงจันทน์เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การเชื่อมโยงแนวเศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตก ผลักดันการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยว ตลอดจนรับฟังข้อเสนอต่างๆของสถานประกอบการเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านการเงิน อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง พลังงานหมุนเวียนและการขุดเจาะเหมืองแร่

ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ พูดคุยกับเจ้าหน้าที่พนักงานในโรงพยาบาลระหว่างประเทศ La Vie

บ่ายวันเดียวกัน ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ ได้พบปะกับชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศลาว โดยยืนยันว่า เวียดนามจะสนับสนุนชุมชนอย่างเต็มที่ในการก่อสร้างโรงเรียน การเรียนการสอนภาษาเวียดนามและเพิ่มจำนวนทุนการศึกษา

ส่วนในเช้าวันที่ 6 ธันวาคม ประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ ได้ไปเยือนโรงพยาบาลระหว่างประเทศ La Vie ในกรุงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลรักษาโรคหัวใจและโรคต่อมไร้ท่อ ที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขลาว โดยชื่นชมโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์ที่ทันสมัยของโรงพยาบาลที่ก่อสร้างโดยชมรมชาวเวียดนามที่อาศัยในประเทศลาว พร้อมทั้งเห็นด้วยกับข้อเสนอของชมรมชาวเวียดนามคือขยายความร่วมมือและเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลอื่นๆในประเทศเวียดนาม.