รัฐมนตรีต่างประเทศคิวบา Bruno Rodriguez (ขวา) ในการแถลงข่าวร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ John Kerry (ซ้าย) ณ กรุงฮาวานา ประเทศคิวบาเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมปี 2016 (Photo AFP/ VNplus)

นั่นคือประกาศยกเลิก “นโยบายเพียงฝ่ายเดียว”ในสมัยของอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบาม่า กับคิวบาและการตัดสินใจนี้จะมีผลบังคับใช้ทันที สหรัฐจะเพิ่มความเข้มงวดต่อการเดินทางระหว่างสองประเทศและห้ามพลเมืองสหรัฐทำธุรกิจกับสถานประกอบการภาครัฐที่มีความสัมพันธ์กับกองทัพและกองกำลังรักษาความมั่นคงคิวบา ยุติการพบปะระดับประชาชน เพียงแต่อนุญาติให้มีการเยี่ยมเยือนญาติพี่น้องเท่านั้น

ส่วนรัฐบาลคิวบาได้ประนามนโยบายดังกล่าวของสหรัฐ โดยยืนยันว่า คิวบายังคงมีความประสงค์ที่จะทำการสนทนากับวอชิงตัน ในขณะเดียวกัน ประชามติในแถบลาตินอเมริกาและทวีปอเมริกา รวมทั้งในประเทศสหรัฐได้ประท้วงการตัดสินใจดังกล่าว โดยประธานาธิบดีเวเนซูเอลาได้ประกาศว่า นี่เป็นการกระทำที่ยั่วยุและข่มขู่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนทั่วโลกแสดงความสามัคคีกับคิวบาและยืนยันว่า คิวบาจะไม่ถูกโดดเดี่ยว ส่วนประธานาธิบดีโบลิเวียได้แสดงความสามัคคีกับรัฐบาลและประชาชนคิวบาโดยกล่าวหาว่า ทางการสหรัฐเพิกเฉยคำเรียกร้องยกเลิกคำสั่งคว่ำบาตรคิวบาของทั้งโลก ข่าวสารนิเทศของกระทรวงการต่างประเทศเม็กซิโกได้ส่ง “คำเรียกร้องให้รัฐบาลคิวบาและสหรัฐแสวงหาความเห็นพ้องกันและแก้ไขความขัดแย้งผ่านการสนทนาบนพื้นฐานความเคารพซึ่งกันและรับรองอธิปไตยระหว่างกัน” ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ กรุงออตตาวา นายกรัฐมนตรีแคนาดาได้แถลงไม่เห็นด้วยกับนโยบายต่อต้านคิวบาของวอชิงตันและให้คำมั่นว่า แคนาดาจะสนับสนุนคิวบาในด้านการท่องเที่ยวและการลงทุนต่อไป.