ผลักดันกรอบทางนิตินัยเพื่อดึงดูดการลงทุนภาคเอกชนต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
(VOVworld) – ตามรายงาน คาดว่า ในปี 2014 การขยายตัวจีดีพีของเวียดนามจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับปี 2013 ระบบธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศจะมีการพัฒนา อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ร้อยละ 6.2 ปริมาณการผลิตข้าวจะมีเสถียรภาพ ลดนโยบายกระตุ้นการอุปโภคและค่าเงินด่งจะอ่อนตัวลงเพีงเล็กน้อย
![ผลักดันกรอบทางนิตินัยเพื่อดึงดูดการลงทุนภาคเอกชนต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน - ảnh 1](https://photo-cms-vovworld.zadn.vn/w730/uploaded/vovworld/wpdhnwhnw/2014_04_01/bao%20cao%20adb.jpg)
รายงานของ ADB: ผลักดันกรอบทางนิตินัยเพื่อดึงดูดการลงทุนภาคเอกชนต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
|
(VOVworld) – การสร้างการแข่งขันที่เสมอภาคให้แก่โครงการลงทุนในรูปแบบร่วมมือหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐกับเอกชนหรือ PPP คือปัจจัยสำคัญเพื่อยกระดับความสมบูรณ์และคุณภาพการจัดสรรค์บริการสาธารณะ นี่คือคำยืนยันของผู้อำนวยการธนาคารพัฒนาเอเชียหรือ ADB ในพิธีประกาศรายงานศักยภาพการพัฒนาเอเชียปี 2014 ในวันที่ 1 เมษายน ณ กรุงฮานอย
ตามรายงาน คาดว่า ในปี 2014 การขยายตัวจีดีพีของเวียดนามจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.6 เมื่อเทียบกับปี 2013 ระบบธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศจะมีการพัฒนา อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ร้อยละ 6.2 ปริมาณการผลิตข้าวจะมีเสถียรภาพ ลดนโยบายกระตุ้นการอุปโภคและค่าเงินด่งจะอ่อนตัวลงเพียงเล็กน้อย
รายงานของ ADB ได้รับทราบความคืบหน้าที่ได้บรรลุในการปฏิรูปการเงิน ธนาคาร การปฏิบัติข้อกำหนดใหม่เกี่ยวกับการแบ่งประเภทเงินกู้และการจัดงบสำรองเพื่อลดช่องว่างกับมาตรฐานสากล สำหรับรูปแบบการลงทุนร่วมมือ PPP นาย Tomoyuki Kimura ผู้อำนวยการแห่งชาติของ ADB ประจำเวียดนามได้เผยว่า รายงานของ ADB ให้ความสำคัญต่อความพยายามของรัฐบาลในการสร้างสรรค์กรอบทางนิตินัยที่เป็นเอกภาพเพื่ออำนวยความสะดวกให้นักลงทุนภาคเอกชนเข้าร่วมโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานตามรูปแบบ PPP“การดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชนผ่านรูปแบบ PPP เป็นหลักจะมีส่วนร่วมระดมแหล่งเงินทุนให้แก่โครงการต่างๆ พร้อมทั้งช่วยให้เวียดนามเข้าถึงความรู้และเทคโนโลยีของโลก ยกระดับประสิทธิภาพและปรับปรุงคุณภาพการบริการสาธารณะโดยการสร้างกรอบทางนิตินัยที่มั่นคงให้แก่ PPP จะสามารถยกระดับความสมบูรณ์และคุณภาพการจัดสรรค์การบริการสาธารณะ”./.