การเจรจาระหว่างสองฝ่าย

ในกรอบการเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการ เมื่อบ่ายวันที่ 31 พฤษภาคมตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงวอชิงตัน นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้เจรจากับประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์ ในการนี้ นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยืนยันให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐ รวมทั้งบทบาทของเวียดนามและอาเซียนในภูมิภาค สหรัฐมีความประสงค์ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในเวลาที่จะถึงจะพัฒนาอย่างเข้มแข็งต่อไป ส่วนนายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านกับสหรัฐ ชื่นชมก้าวเดินในการปฏิบัตินโยบายของทางการประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในเวลาที่ผ่านมา ผู้นำทั้งสองประเทศให้คำมั่นที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอย่างยั่งยืน ยาวนาน สร้างสรรค์และเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน อีกทั้งไม่เพียงแต่สนับสนุนผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศเท่านั้น หากต้องมีส่วนร่วมต่อสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในเอเชียแปซิฟิกและโลก บนพื้นฐานการปฏิบัติตามกฎบัตรของสหประชาชาติ กฎหมายสากล ให้ความเคารพเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดนและระบอบการเมืองของแต่ละฝ่าย

นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกและประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เห็นพ้องที่จะพยายามผลักดันความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจที่นำผลประโยชน์มาสู่ทั้งสองฝ่าย ถือความร่วมมือพัฒนาคือเนื้อหาหลักของความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ การค้าระหว่างสองประเทศ อีกทั้งยืนยันถึงความตั้งใจของเวียดนามในการปฏิรูปเศรษฐกิจและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ผลักดันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนเวียดนาม สหรัฐบนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน เสนอให้ทั้งสองฝ่ายศึกษาการจัดตั้งห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการจำหน่ายเพื่อสนับสนุนกันในด้านเศรษฐกิจ ปฏิบัติกรอบข้อตกลงเกี่ยวกับการค้าและการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจบนเจตนารมณ์แห่งการสร้างสรรค์ ยุติธรรม ตอบสนองสิทธิผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของแต่ละฝ่าย และผลักดันความร่วมมือในด้านต่างๆ

ผู้นำทั้งสองประเทศ

นาย เหงียนซวนฟุกและนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยืนยันว่า เวียดนามและสหรัฐจะแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในเอเชียแปซิฟิกร่วมกัน รวมทั้งการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในภูมิภาค นาย เหงียนซวนฟุก ได้ชื่นชมการที่สหรัฐเข้าร่วม มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการสร้างโครงสร้างความมั่นคงและเศรษฐกิจของภูมิภาค จะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐต่อไป โดยก่อนอื่นคือการประชุมในเร็วๆนี้ในกรอบฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกหรือเอเปกและการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกหรืออีเอเอส ประธานาธิบดีสหรัฐยืนยันว่า สหรัฐจะสนับสนุนบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนต่อไป ผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์สหรัฐ อาเซียน สนับสนุนเวียดนามจัดการประชุมเอเปก 2017 ให้ประสบความสำเร็จ

ผู้นำทั้งสองประเทศได้ย้ำถึงความสำคัญของการเดินเรือ การบินอย่างเสรีในทะเลตะวันออก ยืนยันสนับสนุนการแก้ไขการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติบนพื้นฐานของกฎหมายสากล รวมทั้งให้ความเคารพกระบวนการทางการทูตและนิตินัย ชื่นชมความคืบหน้าในการเจรจาร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันที่มีประสิทธิภาพและมีความหมาย.