ภารกิจของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจอห์นแคร์รี่ในเวียดนาม

(VOVworld)-ในกรอบการเยือนเวียดนาม บ่ายวันที่16ธันวาคม ณ กรุงฮานอย รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐจอห์นแคร์รี่ได้มีการเจรจากับรองนายกฯและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามท่านฝามบิ่งมิงห์และได้เข้าร่วมการแถลงข่าวหลังการเจรจา

ภารกิจของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจอห์นแคร์รี่ในเวียดนาม - ảnh 1
บรรยากาศการแถลงข่าว

(VOVworld)-ในกรอบการเยือนเวียดนาม บ่ายวันที่16ธันวาคม ณ กรุงฮานอย รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐจอห์นแคร์รี่ได้มีการเจรจากับรองนายกฯและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามท่านฝามบิ่งมิงห์และได้เข้าร่วมการแถลงข่าวหลังการเจรจา โดยท่านฝามบิ่งมิงห์ได้เผยว่าทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนอย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผยเกี่ยวกับปัญหาต่างๆทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีพร้อมทั้งต่างแสดงความพึงพอใจต่อพัฒนาการที่จริงจังในความสัมพันธ์เวียดนาม-สหรัฐโดยเฉพาะหลังจากมีการพัฒนาความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนในทุกด้านในโอกาสท่านเจืองเติ๊นซางประธานประเทศเวียดนามเยือนสหรัฐเมื่อเดือนกรกฎาคมปี2013 ท่านฝามบิ่งมิงห์กล่าวว่าพวกเราได้หารือถึงมาตรการต่างๆเพื่อขยายการปฏิบัติความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านและนำความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศพัฒนาเข้มแข็งยิ่งขึ้นโดยจะมีการกระชับการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ ธำรงระเบียบการสนทนาที่มีอยู่และผลักดันความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนต่อไปตลอดจนความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการลงนามข้อตกลงร่วมมือด้านนิวเคลียร์พลเรือนในเร็วๆนี้

ส่วนรัฐมนตรีจอห์นแคร์รี่ได้ยืนยันนโยบายของทางการประธานาธิบดีบารักโอบามาในอาเซียนที่ยืนยันเวียดนามเป็นหุ้นส่วนสำคัญของสหรัฐในภูมิภาคนี้และได้ย้ำถึง4แนวทางสำคัญที่สหรัฐให้ความสนใจก่อนในความร่วมมือกับเวียดนามคือการสังสรรค์ระดับประชาชน สิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงและการค้าการลงทุนการค้าการลงทุนคือด้านที่มีการขยายตัวอย่างเข้มแข็งโดยนับตั้งแต่สองประเทศเวียดนาม-สหรัฐได้ปรับความสัมพันธ์เป็นปกติเมื่อปี1995จนถึงปัจจุบัน การค้าระหว่างสองฝ่ายได้เพิ่มขึ้น50เท่า ซึ่งหวังว่าข้อตกลงหุ้นส่วนการค้าข้ามแปซิฟิกทีพีพีที่ทั้งสองฝ่ายกำลังเจรจากันจะเป็นโอกาสเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าให้มากขึ้น มีส่วนร่วมสร้างงานทำใหม่ในทั้งสองประเทศอีกหลายล้านตำแหน่ง
ในโอกาสการเยือนเวียดนามของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้มีการลงนามข้อตกลงขยายความร่วมมือประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการแก้ปัญหาของแหล่งปนเปื้อนสารไดอ๊อกซินที่สนามบินเบียนหว่าตลอดจนการลงนามบันทึกช่วยจำว่าด้วยความร่วมมือด้านการแก้ไขปัญหากับระเบิดหลังสงคราม./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด