ในการนี้ นาย โดนัลด์ ทัสค์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ได้ยืนยันว่า การเยือนโปแลนด์ของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง มีความหมายที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เป็นกิจกรรมแรกในปีรำลึกครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์มิตรภาพและความร่วมมือในหลายด้านให้เข้าสู่ส่วนลึก จริงจังและมีประสิทธิภาพ  พร้อมทั้งย้ำว่า เวียดนามเป็นเพื่อนมิตรที่มีมาช้านานของโปแลนด์และเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนที่สำคัญชั้นนำของโปแลนด์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ เช่น การส่งเสริมความไว้วางใจทางการเมือง มุ่งสู่การยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ พัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจให้เป็นเสาหลักที่สำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคี พยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลักดันความร่วมมือด้านกลาโหม ความมั่นคง การศึกษาและฝึกอบรม ความร่วมมือด้านแรงงาน ผลักดันการพบปะสังสรรค์ระดับประชาชน ประสานงานในการจัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2025 ผลักดันการประสานงานและสนับสนุนกันในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก พร้อมทั้งเสนอให้รัฐบาลโปแลนด์อำนวยความสะดวกให้แก่ชมรมชาวเวียดนามในโปแลนด์ในการปรับตัวเข้ากับสังคม มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาของโปแลนด์ ความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานระหว่างสองประเทศ รวมทั้งการรับรองชมรมชาวเวียดนามเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ในโปแลนด์

นายกรัฐมนตรี โดนัลด์ ทัสค์ ได้เห็นพ้องกันว่า ทั้งสองประเทศจะพิจารณาการยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่บนพื้นฐานของความไว้วางใจทางการเมืองสูง พร้อมทั้งประเมินว่า เวียดนามเป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพของโปแลนด์ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก พร้อมทั้งเผยว่า โปแลนด์จะให้สัตยาบันข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนระหว่างเวียดนามกับอียูหรือ EVIPA โดยเร็ว สนับสนุนคณะกรรมาธิการยุโรปยกเลิกใบเหลืองต่อสัตว์น้ำเวียดนาม โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามเอกสารความร่วมมือในด้านการทูตและแรงงาน

ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังการเจรจา ผู้นำทั้งสองท่านเผยว่า ได้หารือเกี่ยวกับปัญหาระดับภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน มาตรการผลักดันความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานระหว่างสองประเทศ   ทั้งสองประเทศมีศักยภาพความร่วมมืออีกมาก ซึ่งสมกับศักยภาพและความประสงค์ของทั้งสองฝ่าย เห็นพ้องเกี่ยวกับแนวทางและมาตรการขยายความร่วมมือในเวลาที่จะถึง.