รัฐบาลชี้นำการปฏิบัติงานด้านการควบคุมภาวะเงินเฟ้อ

(VOVWORLD) -หลังการประชุมมาเป็นเวลา 1 วันครึ่ง การประชุมครบองค์เกี่ยวกับเศรษฐกิจ-สังคมในกรอบการประชุมครั้งที่ 3 สภาแห่งชาติสมัยที่ 15 ได้เสร็จสิ้นลง 
รัฐบาลชี้นำการปฏิบัติงานด้านการควบคุมภาวะเงินเฟ้อ - ảnh 1รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงุทน เหงวียนชี้หยุง ชี้แจงหลายปัญหาที่ผู้แทนสภาแห่งชาติให้ความสนใจ

ความคิดเห็นต่างๆในการประชุมได้แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นและความรับผิดชอบของผู้แทนสภาแห่งชาติต่อปัญหาต่างๆของประเทศ  เช้าวันที่ 2 มิถุนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โห่ดึ๊กเฟิ้ก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงุทน เหงวียนชี้หยุง รองนายกรัฐมนตรี เลมิงค้ายได้ชี้แจงหลายปัญหาที่ผู้แทนสภาแห่งชาติให้ความสนใจ

สำหรับการปฏิบัติวงเงินช่วยเหลือการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจ มูลค่า 350 ล้านล้านด่ง รองนายกรัฐมนตรี เลมิงค้ายได้เผยว่า ส่วนหนึ่งของวงเงินดังกล่าวถูกนำไปใช้เพื่อซื้อวัคซีนและอุปกรณ์การแพทย์เพื่อป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19  ขณะนี้ เวียดนามสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้ในเบื้องต้นแล้ว ดังนั้น การใช้ส่วนที่เหลือของวงเงินดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในเวลาที่จะถึง สำหรับการลดหรืองดเก็บภาษี รัฐบาลได้ประกาศมติที่ 15 เกี่ยวกับการลดภาษีมูลค่าเพิ่มจากร้อยละ 10 ลงเหลือร้อยละ 8 ในปี 2022 และนโยบายนี้ได้รับการปฏิบัติอย่างรวดเร็ว ส่วนสำหรับการช่วงเหลือค่าเช่าที่พักให้แก่แรงงาน กระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคมจะประสานงานกับท้องถิ่นต่างๆในการเบิกจ่ายวงเงินนี้อย่างรวดเร็ว รองนายกรัฐมนตรี เลมิงค้ายเชื่อมั่นว่า ผลงานที่ได้บรรลุเป็นพื้นฐานที่สำคัญเพื่อปฏิบัติวงเงินช่วยเหลือดังกล่าวในเวลาที่จะถึง

ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงุทน เหงวียนชี้หยุง ได้เผยว่า แม้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแต่ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ  โดยเฉพาะแรงกดดันต่อการบริหารและการปฏิบัติเป้าหมายการควบคุมภาวะเงินเฟ้อให้ต่ำกว่าร้อยละ 4 เนื่องจากราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งเป็นผลจากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนที่ทำให้ห่วงโซ่อุปทานและการผลิตประสบภาวะชะงักงัน

“รัฐบาลจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างเข้มแข็งเพื่อค้ำประกันการอุปโภคบริโภค การควบคุมภาวะเงินเฟ้อ การวิจัยมาตรการลดภาษีและค่าใช้จ่ายเพื่อลดแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น สนับสนุนการฟื้นฟูการผลิตและการประกอบธุรกิจ ช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะผู้ยากจนและผู้ที่มีรายได้น้อย”

สำหรับด้านการเงินและการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โห่ดึ๊กเฟิ้กได้ยืนยันว่า ตลาดหลักทรัพย์ยังคงเป็นช่องทางการระดมเงินทุนในระยะกลางและระยะยาว แต่ต้องปรับปรุงโครงสร้างและผลักดันการผลิต การประกอบธุรกิจภายในประเทศเพื่อเพิ่มรายได้ของประชาชนและสถานประกอบการเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ

บ่ายวันเดียวกัน สภาแห่งชาติได้หารือเกี่ยวกับการประหยัดและการต่อต้านการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด