โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เลถิทูหั่ง ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับท่าทีของเวียดนามต่อรายงานเสรีภาพทางศาสนาระหว่างประเทศของสหรัฐประจำปี 2020 โดยยืนยันว่าเวียดนามรับทราบเนื้อหาในรายงานเสรีภาพทางศาสนาระหว่างประเทศประจำปี 2020 ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐที่กล่าวถึงความพยายามของเวียดนามในการค้ำประกันและส่งเสริมชีวิตทางศาสนาและความเชื่อของพลเมือง แต่อย่างไรก็ตามรายงานนี้ยังคงให้ข้อสังเกตุที่ขาดภาวะวิสัยโดยอาศัยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เป็นจริงในเวียดนาม

รัฐเวียดนามให้ความเคารพและปฏิบัตินโยบายค้ำประกันสิทธิเสรีภาพในความเชื่อและการนับถือศาสนาของประชาชนเสมอ สร้างความเท่าเทียมกันในการปฏิบัติและไม่มีการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุผลทางศาสนาและความเชื่อ พร้อมทั้งปกป้องกิจกรรมขององค์กรศาสนาต่างๆตามกฎหมาย ความพยายามและความสำเร็จของเวียดนามในด้านนี้ก็ได้รับการยอมรับจากประชาคมระหว่างประเทศ เวียดนามพร้อมที่จะร่วมหารืออย่างตรงไปตรงมาและเปิดเผยกับสหรัฐในประเด็นที่ยังคงมีความเห็นแตกต่างกันเพื่อเพิ่มความเข้าใจและมีส่วนร่วมในการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านระหว่างสองประเทศ

เกี่ยวกับความเห็นของเวียดนามต่อคดีฟ้องร้องของผู้เคราะห์ร้ายจากสารพิษสีส้มเวียดนามและนาง เจิ่นโต๊งา  โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เลถิทูหั่ง กล่าวว่าเขารู้สึกเสียใจกับการพิจารณาคดีของศาลในฝรั่งเศส โดยเวียดนามได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสงครามรวมถึงผลกระทบระยะยาวและร้ายแรงของสารพิษสีส้มไดอ๊อกซิน เวียดนามให้การสนับสนุนบรรดาผู้เคราะห์ร้ายของสารไดอ๊อกซินในการเรียกร้องความรับผิดชอบทางกฎหมายต่อบริษัทที่ผลิตสารเคมีและค้าสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินของสหรัฐในช่วงสงครามเวียดนาม เพราะบริษัทเหล่านี้ต้องมีความรับผิดชอบต่อการแก้ไขผลพวงที่ร้ายแรงจากสารพิษสีส้มในเวียดนาม

เมื่อตอบคำถามของนักข่าวที่ว่าเวียดนามจะเปลี่ยนแปลงนโยบายการเข้าเมืองในเร็วๆนี้หรือไม่ โฆษกของกระทรวงต่างประเทศเวียดนามกล่าวว่า ต่อสถานการณ์โรคระบาดที่ซับซ้อนทั่วโลกรัฐบาลปฏิบัติมาตรการต่างๆรวมถึงการระงับการรับคนต่างชาติและชาวเวียดนามในต่างประเทศเข้าประเทศเป็นการชั่วคราวเพื่อระดมกำลังในการปฏิบัติมาตรการด้านความปลอดภัยในการป้องกันและควบคุมการระบาดในประเทศ โดยจะอนุญาตให้เข้าประเทศต่อกรณีที่เป็นนักลงทุน ผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารที่เข้าทำงานในเวียดนามและต้องค้ำประกันการปฏิบัติมาตรการกักกันตลอดจนข้อกำหนดทางการแพทย์ต่างๆ.