รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและหุ้นส่วนต่างๆ

(VOVWORLD) -ในกรอบการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 52 หรือ AMM 52 และการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ได้มีการจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับออสเตรเลีย อินเดีย สหภาพยุโรป สาธารณรัฐเกาหลีและแคนาดา 
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและหุ้นส่วนต่างๆ - ảnh 1 บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุม

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นาย ฝามบิ่งมิง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนามได้ยืนยันว่า เวียดนามจะร่วมกับประเทศอาเซียนกระชับความสัมพันธ์ร่วมมือกับหุ้นส่วนในด้านต่างๆ เช่น การแลกเปลี่ยนทางการค้า การลงทุน การเชื่อมโยง การพัฒนาอนุภูมิภาค การฝึกอบรม การพัฒนาแหล่งบุคลากร โดยเฉพาะ แหล่งบุคลากรที่มีคุณภาพสูงเพื่อตอบสนองความต้องการของเศรษฐกิจดิจิตอล  ความร่วมมือทางทะเล ความมั่นคงทางอินเตอร์เน็ตและการท่องเที่ยว เป็นต้น

สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคและโลก รองนายกรัฐมนตรี ฝามบิ่งมิง ได้แสดงความวิตกกังวลต่อความผันผวนที่ซับซ้อนในทะเลตะวันออก รวมทั้ง การกระทำเพียงฝ่ายเดียวที่เดินสวนกับกฎหมายสากลและเจตนารมณ์ของแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการปฏิบัติของฝ่ายต่างๆในทะเลตะวันออกหรือ DOC ส่งผลเสียต่อความไว้วางใจ สันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค พร้อมทั้ง ยืนยันถึงจุดยืนและหลักการของอาเซียน ความสำคัญของการส่งเสริมความไว้วางใจ การใช้ความอดกลั้น ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้อาวุธ ปฏิบัติตามกฎหมายสากลอย่างจริงจัง รวมทั้ง อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982  ปฏิบัติ DOC อย่างสมบูรณ์และจริงจัง มุ่งสู่การจัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออก หรือ COC  โดยเร็ว

  ในกรอบการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 52 และการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม ฝามบิ่งมิงได้พบปะกับนาย หวังอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรี ฝามบิ่งมิงได้ย้ำว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนบ้านกับจีน สำหรับปัญหาทางทะเลในปัจจุบัน รองนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันถึงจุดยืนและหลักการของเวียดนาม โดยชี้ชัดว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพยายามธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ การควบคุมความขัดแย้ง ไม่มีปฏิบัติการที่ทำให้สถานการณ์ทวีความซับซ้อนมากขึ้น แก้ไขปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกผ่านมาตรการสันติบนพื้นฐานของกฎหมายสากล รวมทั้ง อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวังอี้ ได้ยืนยันว่า พรรคและรัฐบาลจีนให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับเวียดนาม พยายามเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ พร้อมทั้ง เห็นพ้องที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ทวิภาคี

ในวันเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรี ฝามบิ่งมิง ได้มีการพบปะทวิภาคีกับรัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา สหรัฐ กัมพูชา นิวซีแลนด์และอังกฤษเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีและปัญหาในภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด