จนถึงขณะนี้ เวียดนามมีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,588,335รายและมีผู้ที่ได้รับการรักษาหายสะสม1,173,484 ราย

ตามรายงานของเว็บไซต์ worldometers.info จนถึงบ่ายวันที่ 22 ธันวาคม ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 สะสมกว่า   276.5 ล้านรายและมีผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 5.38 ล้านราย  สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในโลกรองลงมาคืออินเดียและบราซิล เอเชียเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด รองลงมาคือยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ แอฟริกาและโอเชียเนีย

รายงานล่าสุดขององค์การอนามัยโลกระบุว่า เชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอนได้แพร่ระบาดใน 106 ประเทศและดินแดนและจำนวนผู้ติดเชื้อกำลังเพิ่มสูงขึ้น

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม สหรัฐพบผู้เสียชีวิตจาก “โอไมครอน” รายแรก ซึ่งเป็นผู้ชายวัย 50 ปี และไม่ได้รับการฉีดวัคซีน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐเผยว่า เชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอนกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในประเทศนี้   ในวันเดียวกัน อิสราเอลได้พบผู้เสียชีวิตจากไวรัสกลายพันธุ์โอไมครอนรายแรก ซึ่งเป็นผู้ชาย อายุ 60 ปี มีโรคประจำตัวและได้รับวัคซีนแล้ว 2 เข็ม.

สหรัฐจะให้ความช่วยเหลือเงินอีก 580 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่ 7 องค์การระหว่างประเทศเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ในสภาวการณ์ที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโอไมครอนรายใหม่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้จำนวนเงินช่วยเหลือของสหรัฐให้แก่องค์การระหว่างประเทศเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโรควิด -19 เพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่น 7 พัน 6 ร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แอนโทนี บลิงเคน ได้ย้ำว่า นอกจากการมอบวัคซีนจำนวน 330 ล้านโดสให้แก่ประเทศต่างๆ จำนวนเงินช่วยเหลือดังกล่าวจะถูกนำไปใช้เพื่อผลักดันโครงการฉีดวัคซีน เพิ่มทักษะความสามารถให้แก่ระบบสาธารณสุขในท้องถิ่น เป็นต้น องค์กรอนามัยโลกจะได้รับเงินช่วยเหลือ 280 ล้านดอลาร์สหรัฐ ส่วนกองทุนสำหรับเด็กแห่งสหประชาชาติหรือUNICEF จะได้รับเงินช่วยเหลือ มูลค่า 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อผลักดันการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มเสี่ยง.