สถานการณ์ความไม่สงบในซีเรีย (ภาพจาก VNA)

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม องค์กรสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรีย หรือ SOHR รายงานว่า มีการปะทะกันระหว่างกองกำลังรัฐบาลซีเรียและกลุ่มกบฏอิสลามิสต์ใกล้กับเมืองฮามา ทางตอนกลางของซีเรีย โดยรัฐบาลกำลังตอบโต้และพยายามยับยั้งการรุกคืบของกลุ่มกบฏ

ฮามาเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญของกองทัพ โดยมีบทบาทเป็นเขตกันชนเพื่อปกป้องกรุงดามัสกัส การปะทะกันครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มกบฏที่นำโดยกลุ่มอิสลามิสต์ ได้เริ่มโจมตีอย่างรวดเร็วและยึดครองพื้นที่สำคัญภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน รวมถึงเมืองอาเลปโป ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของซีเรีย สื่อของรัฐซีเรียรายงานว่า กองทัพรัสเซียและซีเรีย พร้อมด้วยหน่วยปืนใหญ่ ได้ทำการโจมตีกลุ่มกบฏในพื้นที่ฮามาอย่างต่อเนื่อง

SOHR ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 704 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักรบที่เข้าร่วมต่อสู้ พลเรือนอีก 110 ราย ตั้งแต่ความรุนแรงปะทุขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีผู้พลัดถิ่นกว่า 115,000 คนในพื้นที่ Idlib และทางตอนเหนือ Aleppo

เกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย โฆษกวังเครมลิน นาย ดมิตรี เปสคอฟ กล่าวว่า รัสเซียกำลังติดตามสถานการณ์ในซีเรียอย่างใกล้ชิด ประสานงานกับรัฐบาลซีเรีย ประเมินสถานการณ์ก่อนตัดสินใจเรื่องการสนับสนุนรัฐบาลซีเรียในการรับมือกลุ่มกบฏและกำจัดภัยคุกคาม

ในขณะเดียวกัน โฆษกกระทรวงกลาโหมตุรกีเผยว่า ตุรกีกำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรในภูมิภาคอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินสถานการณ์ในซีเรีย

ในวันเดียวกันนี้ นาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ได้เรียกร้องให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่พลเรือนในซีเรียอย่างเร่งด่วน และย้ำถึงความจำเป็นในการใช้กระบวนการทางการเมืองที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติเพื่อยุติสถานการณ์ที่นองเลือดและส่งเสริมให้ทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ปกป้องพลเรือน.