สร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมในชีวิตของชนเผ่าต่างๆ
(VOVworld) – บรรดาผู้แทนรัฐสภาได้ตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะกรรมาธิการชนเผ่า หย่างแซวฝือ เกี่ยวกับกลุ่มปัญหาในการปฏิบัติโครงการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในตำบลยากจน...
รัฐมนตรีและหัวหน้าคณะกรรมาธิการชนเผ่า หย่างแซวฝือ
|
(VOVworld) – บ่ายวันที่ 13 มีนาคม ในกรอบการประชุมครั้งที่ 36 คณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภา บรรดาผู้แทนรัฐสภาได้ตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะกรรมาธิการชนเผ่า หย่างแซวฝือ เกี่ยวกับกลุ่มปัญหาในการปฏิบัติโครงการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในตำบลยากจน เขตที่มีชนกลุ่มน้อยอาศัยและเขตเขาหรือโครงการ 135 การแก้ไขปัญหาที่ดินอาศัยและที่ดินเพื่อการผลิตสำหรับชนกลุ่มน้อยที่ย้ายเขตตั้งถิ่นฐาน
ในการประเมินเกี่ยวกับผลการปฏิบัติโครงการ 135 ในเวลาที่ผ่านมา นาย หย่างแซวฝือ ได้ยืนยันว่า โครงการได้บรรลุผลงานสำคัญๆในเขตที่มีชนกลุ่มน้อยอาศัยซึ่งสิ่งนี้ได้รับการรับรองจากนานาประเทศ บนผลสำเร็จนั้น นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติขยายเวลาการปฏิบัติโครงการ 135 จนถึงปี 2020 ควบคู่กับโครงการ 135 เวียดนามยังปฏิบัติโครงการเป้าหมายอื่นๆอีกหลายโครงการเพื่อผลักดันการแก้ปัญหาความยากจนที่ส่งผลต่อการใช้ทรัพยากรมนุษย์อย่างไม่คุ้มค่าและทำให้เกิดนโยบายที่ซ้ำซ้อนกัน เพื่อแก้ไขปัญหานี้ นาย หย่างแซวฝือ ได้เผยว่า“มาตรการก้าวกระโดดคือต้องเปลี่ยนแปลงมาตรการวางแผนซึ่งตามการชี้นำของรัฐบาลจะมีการยื่นเสนอแผนการในระยะกลางในช่วงปี 2016-2020 ต่อรัฐสภา พวกเราขอเสนอให้มอบหมายให้พวกเราร่างโครงการนี้ให้กลายเป็นโครงการเป้าหมายแห่งชาติสำหรับเขตที่มีชนกลุ่มน้อยอาศัย ต้องปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพและกระทัดรัด หลีกเลี่ยงการซ้ำซ้อน นโยบายมีการเชื่อมโยงกับแหล่งพลังต่างๆ พวกเราหวังว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับจิตสำนึกจากส่วนกลางถึงส่วนท้องถิ่นในการช่วยเหลือชนเผ่า”
การจัดสรรที่ดินทำการผลิตและที่อยู่อาศัยให้แก่ชนกลุ่มน้อยเป็นปัญหาใหญ่ที่ได้รับการกล่าวถึงในการตั้งกระทู้ถามหลายครั้ง ปัจจุบัน ท้องถิ่นหลายแห่งไม่มีกองทุนที่เดินเพื่อจัดสรรให้พี่น้องประชาชนทำการผลิตเกษตร นายเจิ่นแทงนาม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทกล่าวว่า "เมื่อปี๒๐๑๔ ทางกระทรวงได้จัดสรรงบเกือบ๕แสน๔หมื่นล้านด่งเพื่อช่วยเหลือด้านพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ เครื่องมือทำการผลิตและรูปแบบส่งเสริมการเกษตรเพื่อช่วยให้พี่น้องประชาชนทำการผลิต ทางกระทรวงยังปฏิบัติโครงการปรับปรุงนิคมเกษตรและป่าไม้ของรัฐซึ่งต้องตรวจสอบว่า เป็นนิคมเกษตรหรือไม่ ถ้าไม่ใช่นิคมเกษตรก็ต้องส่งคืนที่ดินให้ทางการท้องถิ่นจัดสรรให้แก่ประชาชนต่อไป“ต้องแก้ไขปัญหาที่ดินทำการผลิตในระดับประชาชน ต้องสำรวจกองทุนที่ดินของท้องถิ่นต่างๆ โดยเฉพาะ ที่ดินของนิคมเกษตรและป่าไม้เพื่อใช้ในการก่อสร้างเขตชุมชนและมีการสอดแทรกกับโครงการที่มีอยู่ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญในพื้นที่ที่มีการย้ายที่อยู่อาศัยอย่างเสรีในระดับสูง”
ในการตั้งกระทู้ถาม บรรดาผู้แทนเน้นให้ความสนใจการฝึกสอนอาชีพให้แก่แรงงานในเขตชนเผ่าและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการผลิต
ส่วนในช่วงเช้า คณะกรรมาธิการสามัญแห่งรัฐสภาได้ตั้งกระทู้ถามนายเจืองหว่าบิ่ง หัวหน้าศาลประชาชนสูงสุดเกี่ยวกับการลงโทษผิดตัวในการพิจารณาคดีอาญา เกี่ยวกับมาตรการแก้ไขการลงโทษผิดตัวในเวลาข้างหน้า นายเจืองหว่าบิ่งกล่าวว่า จะเน้นวางโครงการพิจารณาคดี ส่งเสริมบทบาทของทนายความและข้อกำหนดเกี่ยวกับอำนาจศาล
ท่านเหงวียนซิงหุ่งประธานรัฐสภาได้กล่าวปราศรัยสรุปการประชุมโดยย้ำถึงหน้าที่สำคัญ๒ประการในด้านตุลาการคือ ทุกปีต้องลดการลงโทษผิดตัวในการสอบสวนพิจารณาคดี ปรับปรุงระเบียบให้มีความทสมบูรณ์ (กฎหมายที่เกี่ยวข้องถึงการบังคับใช้รัฐธรรมนูญปี๒๐๑๓) เกี่ยวกับงานด้านชนเผ่า ท่านเหงวียนซิงหุ่งกำชับให้ระดมแหล่งพลังเพื่อปฏิบัติหน้าที่พัฒนาเศรษฐกิจสังคมในเขตชนเผ่าเขตเขาปี๒๐๑๕ สำรวจนโยบายเขตชนกลุ่มน้อยควบคู่กับการจัดสรรโครงการเป้าหมายใหม่ต่างๆเพื่อให้รัฐบาลยื่นเสนอต่อรัฐสภาในปีนี้./