ภาพการพบปะหารือ

ในการนี้ รองประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมิน ได้ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์หุ้นส่วนและความร่วมมือในทุกด้านกับสหภาพยุโรป เสนอให้อียูสนับสนุนการขยายความสัมพันธ์หุ้นส่วนและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับอียูและประเทศสมาชิกในด้านต่างๆ รวมทั้งความร่วมมือผ่านช่องทางรัฐสภา ผลักดันให้รัฐสภาของบรรดาประเทศสมาชิกอียูที่เหลือให้สัตยาบันข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนเวียดนาม – อียูหรืออีวีเอฟทีเอโดยเร็ว เพื่อช่วยให้ข้อตกลงฉบับนี้ได้มีผลบังคับใช้โดยเร็วและปกป้องผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของสถานประกอบการทั้งสองฝ่าย นอกจากนี้ นาย เจิ่นแทงเหมิน ยังเสนอให้ประธาน  INTA ผลักดันให้อีซียกเลิกใบเหลือ IUU ต่อสัตว์น้ำของเวียดนามที่ส่งออกไปยังอียูโดยเร็วเพื่อมีส่วนร่วมค้ำประกันการดำรงชีวิตของชาวประมงเวียดนามและแหล่งจัดสรรให้แก่ตลาดอียู สนับสนุนการขยายความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับอียูในด้านการปรับเปลี่ยนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ขอให้อียูและบรรดาประเทศสมาชิกมีเสียงพูดที่เข้มแข็งต่อไปเพื่อสนับสนุนจุดยืนของเวียดนามและอาเซียนในการใช้สันติวิธีเพื่อแก้ไขการพิพาทในทะเลตะวันออกตามกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982

ส่วนนาย Bernd Lange ได้ชื่นชมการพัฒนาและทักษะความสามารถของเวียดนามในกระบวนการปรับเปลี่ยนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งคำมั่นและความพยายามของเวียดนามในการให้ภาคีอนุสัญญาขององค์กรแรงงานสากลหรือ ILO และย้ำว่า เวียดนามมีบทบาทสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมทั้งแสดงจุดยืนของตนเองและจุดยืนของอียูคือสนับสนุนการเดินเรือและการบินอย่างเสรีในทะเล สนับสนุนจุดยืนการให้ความเคารพกฎหมายสากล โดยเฉพาะในทะเลตะวันออก.