เวียดนามพบผู้ติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 รายที่ 34

(VOVWORLD) - จนถึงบ่ายวันที่ 10 มีนาคม เวียดนามได้พบผู้ติดเชื้อรวม 34 ราย ซึ่งในนั้น มี 16 คนได้รับการรักษาจนหายแล้ว

กระทรวงสาธารณสุขได้เผยว่า วันที่ 10 มีนาคม ได้พบผู้ติดเชื้อ SARS-CoV-2รายที่ 32 โดยเป็นหญิง อายุ 24 ปี สัญชาติเวียดนามที่ได้พบปะกับผู้ติดเชื้อรายที่ 17 ที่ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ซึ่งเริ่มมีอาการไอเมื่อวันที่ 2 มีนาคมและได้ไปหาหมอในกรุงลอนดอน หลังจากทราบข่าวผู้ติดเชื้อรายที่ 17 ผู้ป่วยรายที่32ได้เช่าเครื่องบินเหมาลำเพื่อเดินทางกลับเวียดนามเมื่อวันที่ 9 มีนาคมขณะนี้กำลังได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาลโรคระบบทางเดินหายใจในอำเภอกู๋จี นครโฮจิมินห์ ในวันเดียวกัน สถาบัน Pasteur ญาจางได้เผยว่า พบผู้ติดเชื้อรายที่ 33 โดยเป็นชาย อายุ 58 ปี  สัญชาติอังกฤษที่เดินทางมาเวียดนามโดยเที่ยวบิน VN0054และอยู่ในเมืองฮอยอาน จังหวัดกว๋างนาม ส่วนผู้ป่วยรายที่34เป็นหญิงอายุ51ปีสัญชาติเวียดนาม โดยตั้งแต่วันที่22กุมภาพันธ์ได้เดินทางไปที่ประเทศสหรัฐผ่านสนามบินอินชอนสาธารณรัฐเกาหลีและจากสหรัฐกลับเวียดนามผ่านสนามบินกาต้าร์ มาถึงสนามบินเตินเซินเญิดเมื่อวันที่2มีนาคม เข้ารับการตรวจรักษาตัวที่โรงพยายามจังหวัดบิ่งถวนเมื่อวันที่9มีนาคมและมีผลตรวจเป็นบวกกับเชื้อ SARS-CoV-2

ในขณะเดียวกัน กระทรวงการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ได้เรียกร้องให้ประชาชนใช้แอพพลิเคชั่นNCOVI สำหรับชาวเวียดนามในประเทศและแอพพลิเคชั่น Vietnam health declaration สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเพื่อสนับสนุนการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนเมื่อเช้าวันที่ 10 มีนาคม นาย เหงวียนแทงลอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและรองหัวหน้าคณะกรรมการชี้นำแห่งชาติเกี่ยวกับการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งเอกสารถึงประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดและนครสังกัดส่วนกลางเกี่ยวกับการขยายการคัดกรองและทำการแยกตัวผู้ที่ส่งสัยว่า ติดเชื้อตามโรงพยาบาล สถานีอนามัยและคลีนิค

ในเช้าวันเดียวกัน ณ กรุงฮานอย แนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามได้รับนม 1 ล้านแก้วจากเครือบริษัท TH True MILK  และกองทุนเพื่อยกระดับสุขภาพให้แก่คนเวียดนาม โดยมอบให้แก่แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่และผู้ที่สงสัยว่า ติดเชื้อในเขตแยกตัวต่างๆทั่วประเทศ ในการนี้ นาง เจืองถิหงอกแอ๊ง รองประธานแนวร่วมปิตุภูมิได้เผยว่า แนวร่วมปิตุภูมิทุกระดับและองค์กรการเมืองสังคมได้ผลักดันการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการแพร่ระบาดในเขตชุมชนต่างๆ พร้อมทั้งเรียกร้องให้สถานประกอบการ ผู้มีใจกุศลและองค์การต่างๆสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด