ในการแถลงข่าวเกี่ยวกับท่าทีของเวียดนามต่อหนังสือฉบับวันที่17เมษายนที่ทางการจีนได้ยื่นต่อสหประชาชาติเพื่อเรียกร้องอธิปไตยในทะเลตะวันออก นายโงตว่านทั้งรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้กล่าวยืนยันว่า ต่อการที่จีนได้ยื่นเสนอหนังสือที่ระบุข้อเรียกร้องอธิปไตยต่อหมู่เกาะหว่างซาหรือพาราเซลและเจื่องซาหรือสเปรตลี่โดยที่ไม่มีกฎหมายสากลรองรับและขัดกับอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเลปี1982หรือUNCLOS เมื่อวันที่30มีนาคมและ10เมษายน เวียดนามได้ยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติเพื่อปฏิเสธข้อเรียกร้องเหล่านี้และยืนยันจุดยืนที่เสมอต้นเสมอปลายของตนต่อประเทศต่างที่เกี่ยวข้องรวมทั้งได้หารือกับฝ่ายจีนเพื่อแสดงการคัดค้านอย่างแข็งขัน  เวียดนามได้ยืนยันหลายครั้งว่าได้มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และนิตินัยที่สมบูรณ์เพื่อยืนยันอธิปไตยของตนเหนือหมู่เกาะสองแห่งดังกล่าวซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายสากล ในฐานะประเทศริมฝั่งทะเลเวียดนามได้รับสิทธิผลประโยชน์ต่างๆในทะเลตะวันออกตามกฎหมายรวมทั้งUNCLOS ดังนั้นทุกข้อเรียกร้องที่ขัดกับUNCLOS ละเมิดอธิปไตยและสิทธิอำนาจศาลต่อเขตทะเลของเวียดนามต่างเป็นโมฆะ

เกี่ยวกับการที่จีนได้ประกาศสิ่งที่เรียกว่า"ชื่อเรียกมาตรฐาน"ให้แก่โครงสร้างทางกายภาพ80เเห่งในทะเลตะวันออก นายโงตว่านทั้งรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ชี้ชัดว่า ทุกการเคลื่อนไหวที่ส่งผลเสียต่ออธิปไตยของเวียดนามต่อหมู่เกาะหว่างซาและเจื่องซาจะไม่เป็นที่ยอมรับและเวียดนามคัดค้านทุกปฏิบัติการในลักษณะนี้

ต่อคำถามของสื่อเกี่ยวกับการที่องค์การความมั่นคงทางอินเตอร์เนท FireEye ที่กล่าวว่าเวีดยนามสนับสนุนกลุ่มเเฮกเกอร์ APT32 โจมตีเครือข่ายอินเตอร์เนทของสำนักงานรัฐบาลและสถานประกอบการต่างประเทศหลายแห่ง นายโงตว่านทั้งรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเผยว่านี่เป็นข่าวที่ไร้มูลความจริง เวียดนามไม่อนุญาตให้ทำการโจมตีเครือข่ายอินเตอร์เนทที่มุ่งเป้าไปยังองค์การและบุคคลไม่ว่าอยู่ในรูปแบบใดและทุกการกระทำในลักษณะนี้ต้องถูกลงโทษอย่างเข้มงวดตามกฎหมาย โดยเมื่อปี2018สภาแห่งชาติเวียดนามได้อนุมัติกฎหมายความมั่นคงทางอินเตอร์เนทและขณะนี้กำลังปรับปรุงเอกสารกำกับกฎหมายให้สมบูรณ์เพื่อปฏิบัติกฎหมายนี้ป้องกันการโจมตีทางอินเตอร์เนทในทุกรูปแบบ เวียดนามพร้อมร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศในการต่อต้านและป้องกันการโจมตีทางอินเตอร์เนทในทุกรูปแบบ

ต่อปัญหาที่องค์กรนักข่าวไร้พรมแดนได้มีรายงานที่ผิดพลาดเกี่ยวกับสถานการณ์เสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนในเวียดนาม รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามย้ำว่า นี่มิใช่ครั้งแรกที่องค์กรนักข่าวไร้พรมแดนประกาศรายงานที่อาศัยข้อมูลไม่ถูกต้องด้วยเจตนาที่ไม่หวังดี การที่องค์กรนักข่าวไร้พรมแดนให้สิทธิ์ตนเองจัดอันดับเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนของประเทศต่างๆตามมาตรฐานของพวกเขาโดยไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เป็นจริงอย่างถูกต้อง ดังนั้นข้อมูลที่องค์กรนี้ประกาศไม่อาจไว้ใจได้ ที่เวียดนามสิทธิเสรีภาพด้านสื่อสารมวลชนและสิทธิในการแสดงความคิดเห็นได้ถูกระบุละเอียดชัดเจนในรัฐธรรมนูญ2013และกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้อง  รวมทั้งได้สะท้อนผ่านการพัฒนาเครือข่ายสำนักงานสื่อสารต่างๆทั้งด้านจำนวนและรูปแบบที่หลากหลาย ปัจจุบันในเวียดนามมีสำนักด้านหนังสือพิมพ์และหนังสือพิมพ์ออนไลน์กว่า850แห่ง ช่องวิทยุเกือบ90ช่องและโทรทัศน์195ช่อง โดยสมาชิกสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนามกว่า2หมื่น5พันคนได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งเพื่อรายงานข่าวในทุกด้านถึงประชาชนในหลากหลายรูปแบบ./.