เอกอัครราชทูต ดั่งหว่างยาง

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม เอกอัครราชทูต ดั่งหว่างยาง หัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามประจำสหประชาชาติ ได้ย้ำว่า การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลเป็นผลพวงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตผู้คนนับล้านคน รวมถึงชาวเวียดนาม ดังนั้น จำเป็นต้องมีการพิจารณาถึงประเด็นนี้ พร้อมความพยายามและมาตรการทั้งหมด เพื่อรับมือผลกระทบต่างๆ ตามกฎหมายสากล รวมถึงอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 โดยทุกประเทศจะต้องรับผิดชอบในการปฏิบัติตามคำมั่นต่างๆ ที่ให้ไว้ อีกทั้งส่งเสริมการดำเนินงานและการเงินด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งรวมถึงคำมั่นที่ให้ไว้ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือ COP และการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศที่มีขึ้นเมื่อเดือนกันยายนปี 2023 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เวียดนามเรียกร้องให้เร่งจัดตั้งกองทุนชดเชยความเสียหายตามความเห็นชอบของประเทศต่างๆ ในการประชุม COP27 นอกจากนั้น เอกอัครราชทูต ดั่งหว่างยาง ยังได้ย้ำว่า เนื่องจากเวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีแนวชายฝั่งยาว ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล และปัญหาน้ำทะเลซึม ดังนั้น จึงมีความเข้าใจเป็นอย่างดีเกี่ยวกับผลกระทบดังกล่าวต่อความมั่นคงและการพัฒนา ซึ่งเวียดนามได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการส่งเสริมปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศเพื่อบรรลุตามพันธกรณีต่างๆ ที่ให้ไว้ รวมถึงการจัดตั้งความสัมพันธ์หุ้นส่วนเกี่ยวกับกระบวนการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เป็นธรรมและแผนการระดมทรัพยากร อีกทั้งมีความพร้อมที่จะร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับบรรดาประเทศและหุ้นส่วนต่างๆ เพื่อส่งเสริมความพยายามร่วมกันในการรับมือปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล.