คนรุ่นใหม่สร้างฐานะจากการทำเกษตรปลอดสารพิษ

(VOVWORLD) -การประกอบอาชีพเกษตรมีความลำบากมากมาย  ดังนั้น เกษตรกรหลายคนจึงคิดว่า ต้องให้ลูกไปโรงเรียนเพื่อจะได้มีความรู้ไปประกอบอาชีพอื่นๆ แต่ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา คนรุ่นใหม่หลายคนได้เลือกสร้างฐานะจากการทำเกษตรและมีรูปแบบการทำธุรกิจสตาร์ทอัพต่างๆที่ประสบความสำเร็จ

คนรุ่นใหม่สร้างฐานะจากการทำเกษตรปลอดสารพิษ - ảnh 1นาง เหงวียนหงอกเฮือง (คนใส่เสื้อสีเขียว)และบรรดาเกษตรกร 

ในหลายปีที่ผ่านมา มีรูปแบบการทำธุรกิจสตาร์ทอัพจากการทำเกษตรที่ได้รับการชื่นชมและได้รับรางวัลต่างๆจากการประกวดทำธุรกิจสตาร์ทอัพอย่างเช่นรูปแบบการผลิตผงผักแห้งกว๋างแทงของนาง เหงวียนหงอกเฮือง แม้จะเรียนจบมหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์นครโฮจิมินห์แต่นาง เหงวียนหงอกเฮือง เกิดปี 1989 ได้ตัดสินใจประกอบอาชีพปลูกใบบัวบก ซึ่งเป็นพืชที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่สูงแต่นางเฮืองคิดว่า จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ เธอสามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่พืชชนิดนี้ได้ ซึ่งเธอได้ตัดสินใจลาออกจากงานอ๊อฟฟิศเพื่อกลับกู๋จีเช่าที่ดินปลูกบัวบกและทำการวิจัยเพื่อแปรรูปและผลิตผงผัก

“เมื่อตัดสินใจประกอบอาชีพด้านการเกษตร ซึ่งเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูง ดิฉันก็ประสบอุปสรรคมากมาย โดยต้องก่อสร้างฟาร์ม ศึกษาวิธีการผลิตผงผักที่ผู้บริโภคสามารถใช้แทนผักสดได้”

นาง เฮืองได้ศึกษาวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพและมาตรฐานเวียดแก๊ปเพื่อนำมาใช้กับสวนบัวบก นาง เฮืองพร้อมกับเพื่อนร่วมงานได้ทำการวิจัยเทคโนโลยีการแปรรูปบัวบกแห้งให้เป็นผงที่ยังคงรสชาดและสีตามธรรมชาติเอาไว้ หลังจากประสบความสำเร็จในการแปรรูปใบบัวบกให้เป็นผง นาง เฮืองก็ผลิตผงผักชนิดอื่นๆ เช่น พลูคาวและชิโซะ  เป็นต้น ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ผงผักกว๋างแทงถูกวางขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าต่างๆภายในประเทศ โดยเฉพาะ เมื่อปี 2020 แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคต่างๆเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 แต่คุณเฮืองยังสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี อินเดีย สหรัฐและเนเธอร์แลนด์

นอกจากช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์การเกษตรแล้ว นาง เฮืองยังสร้างงานทำให้แก่แรงงานและเกษตรกรนับสิบคนในท้องถิ่น เปลี่ยนแปลงแนวคิดของเกษตรกรอย่างเช่นนาย เหงวียนวันอุดเกี่ยวกับการทำการเกษตรปลอดสารพิษ นาย เหงวียนวันอุดได้เล่าว่า

“เมื่อก่อนนี้ ผมใช้ยากำจัดศัตรูพืชในการทำเกษตรแต่เมื่อมาทำงานที่นี่ พวกเขาไม่ใช้กัน   จึงสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษให้แก่ผู้บริโภค ผมก็อยากทำงานให้บริษัทต่อไป”

คนรุ่นใหม่สร้างฐานะจากการทำเกษตรปลอดสารพิษ - ảnh 2นาย เหงวียนแหมงตุ่ง สมาชิกของกลุ่ม“นงจ๋ายแซง”

ก็เหมือนกับนางเฮืองที่ทำธุรกิจสตาร์ทอัพจาการทำเกษตร กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า “นงจ๋ายแซง” หรือ “ฟารม์แห่งสีเขียว” ที่เขต 12 นครโฮจิมินห์ได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย จากความต้องการของหลายครอบครัวในตัวเมืองที่ต้องการปลูกผักแต่ไม่มีที่ดิน กลุ่ม “นงจ๋ายแซง” ได้ทำการวิจัยและพัฒนารูปแบบการปลูกผักแอโรโพนิกส์  ซึ่งสามารถติดตั้งได้บนระเบียงหรือลานกลางแจ้ง โดยใช้พื้นที่ไม่มากแต่ให้ผักในปริมาณพอกิน ปัจจุบัน กลุ่ม“นงจ๋ายแซง”จัดสรรคผักสะอาด 2 ตันต่อเดือนให้แก่ตลาดและได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีนี้ให้แก่กว่า 200 ครอบครัวในนครโฮจิมินห์ นาย เหงวียนแหมงตุ่ง สมาชิกของกลุ่ม“นงจ๋ายแซง”รู้สึกดีใจมากที่สามารถใช้ความรู้ของตนในด้านการเกษตร เช่น การรดน้ำผักอัตโนมัติและการเฝ้าติดตามการเจริญเติบโตของผักด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์

“หลังจากที่พบปะกับพี่ๆที่มีความทุ่มเทในการผลิตผลิตภัณฑ์การเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อให้ประชาชนและครอบครัวมีผักสะอาดไว้บริโภค   ผมก็ตัดสินใจเข้าร่วมการพัฒนาและขยายผลรูปแบบนี้”

ถ้าหากกลุ่ม“นงจ๋ายแซง”สามารถแก้ไขปัญหาไม่มีที่ดินเพื่อทำการเกษตรในตัวเมือง บริษัท Mr Vina ได้เลือกแนวทางคือจัดสรรผลิตภัณฑ์และมาตรการการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและระบบอัตโนมัติให้แก่เกษตรกรในเขตชนบทของเวียดนาม จากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของบริษัท Mr Vina เกษตรกรสามารถบริหารสวนปลูก ใช้เครื่องจักรกลเพื่อรดน้ำและใส่ปู๋ย ไม่ต้องพึ่งพาสภาพที่ดินหรือสภาพอากาศ นาย ฝามกาวกี่ ผู้อำนวยการบริษัท Mr Vina ได้เผยว่า เขาและเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯต่างเป็นคนในเขตชนบท จากความเข้าใจอุปสรรคและความยากลำบากของเกษตรกร ใครๆก็มีความประสงค์ที่จะใช้ความรู้ของตนเพื่อพัฒนาการเกษตร

ผงผักกว๋างแทง กลุ่ม“นงจ๋ายแซง” และ Mr Vina เป็น 3 รูปแบบการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการเกษตรของกลุ่มคนรุ่นใหม่ การใช้ความรู้และเทคโนโลยีใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาด้านเกษตรได้เปลี่ยนแปลงแนวคิดของหลายคนเกี่ยวกับการเลือกงานทำและการทำธุรกิจสตาร์ทอัพในปัจจุบัน ซึ่งผลสำเร็จของรูปแบบนี้เป็นแนวทางการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด