พลังชีวิตใหม่ในผืนแผ่นดินของป่า อูมิงหะ

(VOVWORLD) - เมื่อ 5 ปีก่อน ตำบล แค้งเลิม อำเภอ อูมิงหะ จังหวัดก่าเมา มีอัตราครอบครัวยากจนคิดเป็นเกือบร้อยละ 34 และได้รับการถือว่า เป็นตำบลที่ยากจนที่สุดของจังหวัดก่าเมา แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ด้วยรูปแบบเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ ประชาชนในตำบล แค้งเลิม มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  จากที่เคยเป็นผืนแผ่นดินที่ยากจน ปัจจุบันที่นี่ได้มีโฉมหน้าใหม่และกำลังเร่งเสร็จสิ้นมาตรฐานต่างๆเพื่อเตรียมรับใบรับรองเป็นตำบลที่ได้มาตรฐานชนบทใหม่
พลังชีวิตใหม่ในผืนแผ่นดินของป่า อูมิงหะ - ảnh 1ครอบครัวนาย เลวันอาน มีรายได้มากขึ้นจากการปลูกพืชหลายชนิด 

ครอบครัวนาย เลวันอาน มาอยู่อาศัยที่ตำบล แค้งเลิมเมื่อปี 2003 ครอบครัวนาย อาน มีพื้นที่ปลูกป่า 7 เฮกตาร์ ตามข้อกำหนด นาย อาน ได้รับสิทธิ์ปรับเปลี่ยนพื้นที่ร้อยละ 30 เพื่อผลิตการเกษตร ในช่วงนั้น ครอบครัวนาย อาน ปลูกข้าวอย่างเดียว ถ้าฤดูเก็บเกี่ยวได้ผลดี ในพื้นที่1 พันตารางเมตรจะเก็บเกี่ยวข้าวได้ 200 กิโลกรัม ซึ่งชีวิตลำบากมาก หลังจากนั้น นาย อาน ได้เปลี่ยนมาปลูกไม้ผลและเลี้ยงปลาในบ่อ ในตอนแรก นาย อาน ใช้พื้นที่ 0.5 เฮกตาร์เพื่อปลูกส้มโอและมะม่วงเกือบ 200 ต้น ภายหลัง 3 ปี การปลูกส้มโอทำรายได้ดีกว่าการปลูกข้าว จากนั้น นาย เลวันอาน ได้ขยายการปลูกส้มโอในพื้นที่การเกษตรทั้งหมดของครอบครัว นอกจากนั้น ครอบครัวนาย อาน ยังทำการปลูกพืชอื่นๆแซมด้วย ซึ่งเงินจากการปลูกพืชแซมส่วนนี้เพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตของครอบครัว  ส่วนรายได้กว่า 100 ล้านด่งต่อปีจากการปลูกไม้ผลและการเลี้ยงปลาได้ช่วยให้ครอบครัวนาย อาน ไม่เพียงแต่หลุดพ้นจากความยากจนเท่านั้น หากยังมีชีวิตที่ร่ำรวยมากขึ้น นาย เลวันอาน เผยว่า “จากการปลูกผลไม้ในพื้นที่ 5 พันตารางเมตร รวมทั้งสวนและคลอง ทุกปี ผมมีรายได้กว่า 30 ล้านด่ง ส่วนการเลี้ยงปลาสร้งรายได้นับสิบล้านด่งต่อปี จากประสิทธิภาพด้านเศรษฐกิจของรูปแบบนี้ ผมจึงขยายพื้นที่ปลูกไม้ผลและใช้พื้นที่การเกษตรทั้งหมด การปลูกไม้ผลมีประสิทธิภาพสูงกว่านับสิบเท่าเมื่อเทียบกับการปลูกข้าว”

จากการตระหนักได้ดีถึงประสิทธิภาพของรูปแบบนี้ ทางการปกครองท้องถิ่นได้ให้การช่วยเหลือเงินทุนและส่งเสริมให้ชาวท้องถิ่นขยายรูปแบบ ครอบครัวนาย เหงียนวันติ่ง เป็นหนึ่งในครอบครัวที่ได้รับกู้เงินด้วยดอกเบี้ยต่ำเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ ในตอนแรก นาย ติ่ง เรียนรู้การปลูกผักเป็นการนำร่อง  เนื่องจากเห็นช่องทางจำหน่ายที่มั่นคง นาย ติ่ง ได้ตัดสินใจกู้เงินจากธนาคารเพื่อลงทุนปลูกผักปลอดสารพิษในพื้นที่กว่า 1 เฮกตาร์ พร้อมกับการลงทุนโรงเรือนในพื้นที่ประมาณ 400 ตารางเมตรเพื่อปลูกผักปลอดสารพิษ ส่วนพื้นที่ที่เหลือ นาย ติ่ง ปลูกไม้ผลและทำการเลี้ยงปลา ซึ่งรูปแบบนี้ได้เกิดประสิทธิผลและกำลังช่วยให้ครอบครัวนาย เหงียนวันติ่ง มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น “ผมเห็นว่า ดินที่นี่เป็นดินเปรี้ยวจึงใส่ฟอสฟอรัส ปูนขาวและมูลโคเพื่อปลูกพืช ถ้าหากชาวท้องถิ่นรู้จักเทคนิกการดูแล ผักก็จะเจริญเติบโตได้ดี เมื่อก่อน ผมลองปลูกพืชและมีช่องทางจำหน่ายจึงมีรายได้เพิ่มขึ้น  ในไร่ผักเพียงไม่กี่สิบตารางเมตร ผมขายได้ 6 แสนด่ง”

พลังชีวิตใหม่ในผืนแผ่นดินของป่า อูมิงหะ - ảnh 2โรงเรือนปลูกผักของนาย เหงียนวันติ่ง 

จากความพยายามของทางการปกครองท้องถิ่นและประชาชนในการพัฒนาการผลิต ปัจจุบัน รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรของประชาชนในตำบล แค้งเลิม ได้บรรลุ 45 ล้านด่งต่อคนต่อปี เมื่อปี 2016 ตำบลมีครอบครัวยากจน 1 พันครอบครัว แต่ขณะนี้ มีครอบครัวยากจนเพียง 200 ครอบครัวเท่านั้น คิดเป็นเกือบร้อยละ 6 โดยเฉพาะ ตำบงแค้งเลิมเป็นหนึ่งในท้องถิ่นที่มีระบบการคมนาคมชนบทที่สมบูรณ์ที่สุดของอำเภอ อูมิงหะ นาย หวิ่งแทงลวน รองประธานคณะกรรมการประชาชนตำบล แค้งเลิม เผยว่า ผลงานนี้มาจากการเน้นพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ชาวบ้านพร้อมมีส่วนร่วมต่องานด้านสังคม “ทุกปี ทางตำบลเน้นถึงงานด้านการประสัมพันธ์  รณรงค์ให้ประชาชนขยายรูปแบบการทำธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพในท้องถิ่น ซึ่งช่วยให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจน พวกเราเน้นชี้นำงานด้านสำคัญๆ เช่นขยายรูปแบบที่มีจุดแข็ง รวมทั้งการเลี้ยงปลาในกระชัง การปลูกพืชผักและผลไม้ ซึ่งทำให้อัตราครอบครัวยากจนลดลงในทุกๆปี”

ในงานด้านการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ ตำบลแค้งเลิมได้บรรลุ 15 มาตรฐานจากจำนวนทั้งหมด 19 มาตรฐาน ตามแผนการ ในปีนี้ ทางตำบลจะเสร็จสิ้นการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ ขณะนี้ ตำบล แค้งเลิมกำลังเน้นเสร็จสิ้นมาตรฐานที่เหลือเพื่อกลายเป็นตำบลแห่งที่ 4 ของอำเภอ อูมิงหะ ที่เสร็จสิ้นการสร้างสรรค์ชนบทใหม่.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด