สินค้าเกษตรของจังหวัดบิ่งถ่วนหาทางเจาะตลาดใหญ่ๆ

(VOVWORLD) - จังหวัดบิ่งถ่วนเป็นท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและขาดแคลนแหล่งน้ำเพื่อการชลประทาน จึงได้สร้างรูปแบบการผลิตเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อทั้งรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานเพื่อส่งออก ถ้าหากได้รับการเน้นลงทุนขยายผล สินค้าเกษตรที่ปลอดสารพิษของจังหวัดบิ่งถ่วนจะมีโอกาสเจาะตลาดโลกได้ โดยเฉพาะหลังจากที่ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปหรืออีวีเอฟทีเอมีผลบังคับใช้
สินค้าเกษตรของจังหวัดบิ่งถ่วนหาทางเจาะตลาดใหญ่ๆ - ảnh 1 นาย เหงียนวันดึ๊ก ผู้อำนวยการบริษัท Eden Farm 

หลังจากประสบความสำเร็จในการปฏิบัติรูปแบบปลูกเมล่อนในโรงเรือนในเขต 9 นครโฮจิมินห์ บริษัท Eden Farm ได้เข้ามาลงทุนในตำบล ถ่วนหว่า อำเภอ ห่ามถ่วน จังหวัดบิ่งถ่วนเพื่อขยายผลและพัฒนารูปแบบนี้ โดยทางบริษัทฯได้ก่อสร้างโรงเรือน 4 หลัง มีการติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ความร้อน ระบบพัดลมระบายความร้อน อ่างเก็บน้ำ 2 แห่งและระบบการจัดการน้ำที่ใช้เทคโนโลยีจากอิสราเอล รวมยอดเงินลงทุนเกือบ 3 พันล้านด่ง ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เมล่อน ยี่ห้อ Eden Farm มีวางขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆในประเทศ เช่น Big C, Co.op Mart และLotte Mart เป็นต้น Eden Farm กำลังส่งเสริมการแสวงหาตลาดส่งออก เพิ่มความหลากหลายของสินค้าเกษตรในเขตโซนร้อน เช่น มะเขือเทศเชอร์รี่ แตงกวา แตงโมไร้เมล็ด นาย เหงียนวันดึ๊ก ผู้อำนวยการบริษัท Eden Farm ได้เผยว่า “พวกเราอยากเชื่อมโยง ดึงดูดครอบครัวเกษตรกร นักลงทุนและหุ้นส่วนเพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร บริษัท Eden Farm แนะนำให้พวกเขาปลูก แล้วจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ถ้าหากพวกเขามีพื้นที่ปลูกตั้งแต่ 5 พันตารางเมตรขึ้นไป พวกเราก็ให้การช่วยเหลือในการประเมิน Global GAP ให้แก่หุ้นส่วนด้วยเครื่องหมายการค้า Eden Farm ทาง Eden Farm มีความประสงค์ว่า จะมีเขตวัตถุดิบขนาดใหญ่เพื่อร่วมมือกับหุ้นส่วนส่งออกและมีผลิตภัณฑ์เพียงพอเพื่อจัดสรรให้แก่หุ้นส่วนที่มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ Eden Farm”

รูปแบบปลูกเมล่อนของบริษัท Eden Farm ไม่ใช่รูปแบบที่ปฏิบัติครั้งแรกในจังหวัดบิ่งถ่วน แต่เป็นสถานที่แห่งแรกที่ผลิตเมล่อนที่ได้มาตรฐาน Global GAP ดังนั้น ทางการท้องถิ่นจึงตั้งความหวังว่ารูปแบบนี้ จะมีส่วนร่วมนำสินค้าเกษตรปลอดสารพิษของจังหวัดบิ่งถ่วนไปสู่ตลาดโลก นาย ฝ่ามกวงบ๊า รองหัวหน้าฝ่ายถ่ายทอดเทคโนโลยีและการสื่อสารฝึกอบรมของศูนย์ส่งเสริมการเกษตรจังหวัดบิ่งถ่วนเผยว่า "ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์เมล่อนได้มาตรฐาน Global GAP ซึ่งช่วยเปิดทางให้แก่การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารพิษ อาจกล่าวได้ว่า ฟาร์มเมล่อนในถ่วนหว่าเป็นหนึ่งในรูปแบบการผลิตเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในจังหวัดบิ่งถ่วนในการปฏิวัติการเกษตร 4.0 ในปัจจุบัน"

เช่นเดียวกับบริษัท Eden Farm สหกรณ์การบริการ-การผลิตแก้วมังกร ห่ามมิงห์ 30 ในตำบล ห่ามมิงห์ อำเภอ ห่ามถ่วนนาม ยังประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต จัดทำตามมาตรฐาน Viet Gap และ Global GAP นาง เลเฟืองชี ผู้อำนวยการสหกรณ์การบริการ-การผลิตแก้วมังกร ห่ามมิงห์ 30 เผยว่า "สำหรับครอบครัวเกษตรกรที่เข้าร่วมปฏิบัติตามรูปแบบ Global GAP ที่มีผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารพิษเพื่อขายในตลาดยุโรป ทางสหกรณ์จะเชื่อมโยงกับบริษัทให้มารับซื้อผลผลิตถึงที่ การแก้ไขช่องทางการเจาะตลาดยุโรปให้แก่แก้วมังกรเวียดนาม รวมทั้งของจังหวัดบิ่งถ่วนจำเป็นต้องมีการเข้าร่วมของคณะกรรมการ หน่วยงานต่างๆจากส่วนกลาง ถ้าการผลิตมีขนาดเล็กเกินไปก็จะไม่สามารถปฏิบัติได้"

สินค้าเกษตรของจังหวัดบิ่งถ่วนหาทางเจาะตลาดใหญ่ๆ - ảnh 2 นาย ฝ่ามกวงบ๊า รองหัวหน้าฝ่ายถ่ายทอดเทคโนโลยีและการสื่อสารฝึกอบรมของศูนย์ส่งเสริมการเกษตรจังหวัดบิ่งถ่วน

ในเวลาที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์แก้วมังกรของสหกรณ์การบริการ-การผลิตแก้วมังกร ห่ามมิง 30 และเมล่อน Eden Farm ได้ยืนยันถึงสถานะของตนในซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆภายในประเทศและตลาดในต่างประเทศ เช่นสาธารณรัฐเกาหลีและไต้หวัน ประเทศจีน นาย ฟานวันเติ๊น รองผู้อำนวยการสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทจังหวัดบิ่งถ่วนได้ยืนยันว่า สินค้าเกษตรที่ได้มาตรฐาน Global GAP ของจังหวัดบิ่งถ่วนจะได้รับการวางขายในตลาดยุโรปโดยเร็ว

"พื้นที่นี้ได้รับการค้ำประกันความปลอดภัยด้านชีวภาพและได้รับใบรับรองสากล หน่วยงานการเกษตรได้ปฏิบัติส่วนงานต่างๆตั้งแต่ต้นปี 2019 และคาดว่า ในปลายปี 2020 หรือต้นปี 2021 พวกเราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญของสหภาพยุโรปมาประเมิน จากนั้น ทางจังหวัดฯจะกำหนดแนวทางอย่างเป็นรูปธรรมและเดินพร้อมกับสถานประกอบการส่งออกสินค้าเกษตรต่อไป"

การผลิตเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ประหยัดน้ำ และมุ่งสู่การเป็นผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษและสะอาด ได้มาตรฐาน Viet GAP และ Global GAP ล้วนแต่เป็นแนวทางที่ต้องปฏิบัติ ดังนั้น ทางจังหวัดบิ่งถ่วนจึงได้ก่อสร้างศูนย์สินค้าเกษตรที่ปลอดสารพิษ ในพื้นที่ 135 เฮกตาร์ ในอำเภอ ห่ามถ่วนบั๊ก เนื่องจากความต้องการสินค้าเกษตรปลอดสารพิษภายในประเทศและต่างประเทศอยู่ในระดับสูง ดังนั้น ข้อตกลงการค้าฉบับต่างๆ เช่นอีวีเอฟทีเอ จึงเป็นประตูเพื่อให้สินค้าเกษตรเวียดนามเจาะตลาดโลกได้อย่างจริงจัง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด