หมู่บ้านเจี่ยวคุค

หมู่บ้านเจี่ยวคุค ในตำบลเตินเจี่ยว อำเภอแทงจี ชานเมืองกรุงฮานอย ยังมีอีกชื่อหนึ่งตามภาษา นม ว่า เดอทาวหรือแก๋เดอ เนื่องจากหมู่บ้านมีอาชีพทอเชือกผูกงอบพื้นเมือง

ชาวบ้านเจี่ยวคุกรักไม้ดอกไม้ประดับเป็นชีวิตจิตใจ ดังนั้นครอบครัวส่วนใหญ่ที่นี่จึงปลูกไม้ดอกไม้ประดับไว้รอบๆบ้าน จนถึงปัจจุบัน ชาวบ้านเจี่ยวคุครักษาขนบธรรมเนียมประเพณีคือผูกผ้าไว้ทุกข์ให้กับต้นไม้เมื่อมีญาติมิตรและสมาชิกในครอบครัวเสียชีวิต ชาวบ้านมีความเชื่อว่า ต้นไม้และคนคือ “เพื่อนสนิท” เมื่อเล่นไม้ดอกไม้ประดับก็หมายความว่า ต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับต้นไม้และถือต้นไม้เสมือนเพื่อนและสมาชิกในครอบครัว ไม้ดอกไม้ประดับจึงจะอยู่กับพวกเขาได้นานๆ นาย บุ่ย ยวี ทั้ง หัวหน้าสโมสรปลูกไม้ดอกไม้ประดับหมู่บ้านเจี่ยวคุคได้เผยว่า “หมู่บ้านเจี่ยวคุคมีเกียรติประวัติในการเล่นไม้ดอกไม้ประดับแบบโบราณและไม้ดอกไม้ประดับหลายชนิด โดยเฉพาะต้นไทรด่าง (Ficus benjamina L) ต้นเหมย ต้นท้อ ต้นชา ต้นโพธิ์และต้นหมากถวายกษัตริย์ มีชาวบ้านนับร้อยคนเล่นไม้ดอกไม้ประดับและมีศิลปินกว่า 10 คน ทุกเดือน พวกเราจัดการพบปะระหว่างศิลปินกับสมาชิกสมาคมฯเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการดูแลไม้ดอกไม้ประดับ”

การปลูกไม้ดอกไม้ประดับเป็นงานอดิเรกในหมู่บ้านเจี่ยวคุคมีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนแห่งใด โดยชาวบ้านเจี่ยวคุคจะเน้นการตัดแต่งและรูปร่างของไม้ดอกไม้ประดับ ศิลปินของหมู่บ้านเจี่ยวคุคได้สร้างเอกลักษณ์ เครื่องหมายการค้าของตนในการสร้างสรรค์รูปทรงของไม้ดอกไม้ประดับ ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ ศิลปิน เหงียนชาเหี่ยน เล่าให้ฟังว่า “ผมเป็นคนเจี่ยวคุค และโชคดีที่ได้สานต่อเกียรติประวัติรักไม้ดอกไม้ประดับจากบรรพบุรุษและคนรุ่นก่อน ครอบครัวของดิฉันมีหลายรุ่นเล่นไม้ดอกไม้ประดับ ผมเคยได้รับรางวัลเหรียญทองในการประกวดไม้ดอกไม้ประดับระดับประเทศ ด้วยต้นไทรด่างที่มีอายุกว่า 100 ปี ซึ่งมีรูปทรงที่กล่าวถึงครอบครัวที่มีความสุขและอยู่ร่วมกันอย่างสันติ หมู่บ้านเจี่ยวคุคมีเอกลักษณ์คือเล่นไม้ดอกไม้ประดับ 2 ต้นคือต้นแม่และและต้นลูกที่เรียกว่า ความสัมพันธ์แม่ลูก”

ศิลปินไม้ดอกไม้ประดับของหมู่บ้านเจี่ยวคุคกำลังทำการศึกษาเพื่อพิมพ์จำหน่ายหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไม้ดอกไม้ประดับเจี่ยวคุคไว้ให้ลูกหลาน เรียนรู้ปฏิบัติตาม เพื่อให้เจี่ยวคุคพัฒนาไม้ดอกไม้ประดับขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ รองศาสตราจารย์ ดร. ดั่งวันดง รองหัวหน้าสถาบันวิจัยพฤษศาสตร์ได้แสดงความเห็นว่า “สิ่งแรกที่เจี่ยวคุคต้องปฏิบัติคือ วางแผนและกำหนดแนวทางการพัฒนาไม้ดอกไม้ประดับ วางแผนที่ดินตั้งแต่ 2-3 เฮกตาร์ เรียกร้องให้ชาวเจี่ยวคุคและประชาชนจากสถานที่อื่นๆมาลงทุนเพื่อเป็นสถานจัดนิทรรศการ  เจี่ยวคุคมีสวนต้นไม้ขนาดใหญ่ ดังนั้นต้องขยายเป็นศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาไม้ดอกไม้ประดับ ผลักดันการเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐ ผู้ประกอบการ ประชาชน นักวิทยาศาสตร์และสื่อมวลชน ขยายการพบปะสังสรรค์ การเชื่อมโยงระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านไม้ดอกไม้ประดับของหมู่บ้านเจี่ยวคุกกับท้องถิ่นต่างๆทั้งภายในและต่างประเทศ ”

การปลูกไม้ดอกไม้ประดับเป็นงานอดิเรกในหมู่บ้านเจี่ยวคุคมีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนแห่งใด

สโมสรไม้ดอกไม้ประดับเจี่ยวคุกได้รับการก่อตั้งมาได้ 10 ปี ทุกปี สโมสรฯจะจัดงานนิทรรศการไม้ดอกไม้ประดับของหมู่บ้านเจี่ยวคุคและเข้าร่วมงานนิทรรศการในท้องถิ่นต่างๆภายในประเทศ เพื่อมีส่วนร่วมผลักดันการเล่นไม้ดอกไม้ประดับในหมู่บ้าน นาย บุ่ยยวีทั้ง หัวหน้าสโมสรไม้ดอกไม้ประดับหมู่บ้านเจี่ยวคุคได้เผยต่อไปว่า “บรรดาศิลปินได้สืบทอดอาชีพให้แก่ชนรุ่นหลังเพื่อให้พวกเขาทราบวิธีการเล่นไม้ดอกไม้ประดับแบบโบราณ และมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นเพื่อสร้างผลงานที่มีเอกลักษณ์ ทางการปกครองท้องถิ่นอำนวยความสะดวกเพื่อให้พวกเรานำผลงานไปจัดแสดงและอนุรักษ์”

การเล่นไม้ดอกไม้ประดับเป็นงานอดิเรกคือความงามด้านวัฒนธรรมของประชาชาติเวียดนาม เนื่องจากทำให้ชีวิตทางจิตใจของมนุษย์รู้สึกมีความสุขและผ่อนคลาย ดังนั้นบรรพบุรุษจึงมีคำพูดที่ว่า “รักต้นไม้ รักดอกไม้ก็หมายความว่ารักชีวิต”

หมู่บ้านเจี่ยวคุคได้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการเล่นไม้ดอกไม้ประดับ เต็มไปด้วยศักยภาพพัฒนาอาชีพปลูกไม้ดอกไม้ประดับ เจี่ยวคุคกำลังสร้างเครื่องหมายการค้าด้านไม้ดอกไม้ประดับเพื่อกลายเป็นแหล่งปลูกและจัดแสดงไม้ดอกไม้ประดับที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงฮานอยและมุ่งสู่การส่งออกไม้ดอกไม้ประดับไปยังต่างประเทศ.