“หมู่บ้านใฝ่การศึกษา ย้าวไบ๋” ที่จังหวัดก่าเมา

(VOVWORLD) - ที่ตำบล แค้งบิ่งไต อำเภอ เจิ่นวันถ่อย จังหวัดก่าเมา มีสถานที่แห่งหนึ่งที่ชาวบ้านเรียกว่า “หมู่บ้านเว้” ซึ่งเป็นหนึ่งใน “สถานที่แห่งการใฝ่การศึกษา” ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดก่าเมา ที่นี่มีหลายครอบครัวที่อพยพจากภาคกลางมาตั้งถิ่นฐานและสร้างฐานะ ซึ่งยังคงรักษาธรรมเนียมแห่งการขยันทำงานและให้ความสนใจถึงการไปเรียนหนังสือของลูกหลานเพื่อสร้างชื่อเสียง “หมู่บ้านแห่งการใฝ่การศึกษา ย้าวไบ๋”
“หมู่บ้านใฝ่การศึกษา ย้าวไบ๋” ที่จังหวัดก่าเมา - ảnh 1“หมู่บ้านใฝ่การศึกษา ย้าวไบ๋” ที่จังหวัดก่าเมา 

 ครอบครัวนาย เจืองแทงบั่ง เป็นหนึ่งในครอบครัวที่มีเกียรติประวัติแห่งการใฝ่การศึกษาที่ “หมู่บ้านแห่งการใฝ่การศึกษาย้าวไบ๋” หมู่ หมุยจ่ามบี ตำบล แค้งบิ่งไตบั๊ก นาย บั่ง มีลูก 5 คน โดยนอกจากลูกสาวคนที่ 3 ที่ประสบอุบัติเหตุจนต้องเลิกเรียนในขณะเรียนชั้นม.2 ลูกๆที่เหลืออีก 4 คนก็ได้ไปเรียนหนังสือและเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม นาย บั่ง เผยว่า พ่อแม่เขาเป็นคนจังหวัดกว๋างนาม เมื่อปี 1961 ครอบครัวเขาย้ายมาตั้งรกรากและอยู่อาศัยที่เขตกันชนของป่า อูมิงห์หะ ในช่วงสงคราม ชาวบ้านที่นี่ได้สร้างกระท่อมเพื่อสอนหนังสือให้แก่ลูกหลาน ซึ่งถึงแม้ถูกทำลายหลายครั้ง แต่กระท่อมก็ยังคงได้รับการก่อสร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อให้นาย เจืองแทงบั่ง ได้ดูแลให้ลูกๆได้ไปโรงเรียนอย่างสมบูรณ์ “พ่อผมเป็นคนเตรียมข้าวและฟืนให้ผมไปเรียนหนังสือในขณะที่ครอบครัวยังลำบากมาก คุณพ่อกำชับว่า เมื่อมีครอบครัว ต้องให้ลูกไปโรงเรียนเพื่อให้ต่อไปลูกจะดูแลให้หลานไปเรียนหนังสือและกลายเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ดังนั้น ผมจึงพยายามให้ลูกได้ไปเรียนหนังสือ”

ในปัจจุบัน นอกจากครอบครัวนาย เจืองแทงบั่ง ยังมี 55 ครอบครัวที่มีภูมิลำเนาจากจังหวัดกว๋างนามมาตั้งรกรากและใช้ความมุมานะ ขยันหมั่นเพียร สร้างผืนแผ่นดินนี้ นาย เหงียนแทงจอง เผยว่า ตอนแรกที่มาที่นี่ ชาวบ้านปลูกข้าวฤดูเดียว โดยถ้าได้ผลผลิตดีก็จะแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกสำหรับบริโภคในครอบครัวและส่วนที่เหลือนำไปดูแลเด็ก 6 คนที่ไปโรงเรียน ครอบครัวนาย จอง มีข้อกำหนดคือ ค่าใช้จ่ายในครอบครัวต้องไม่ได้มาจากการขายข้าว เนื่องจากข้าวคือทุนเพื่อให้ลูกๆใช้ไปโรงเรียน ควบคู่กันนั้น สามีภรรยา นาย จอง ยังจับปลาและทำงานรับจ้างเพื่อหาเลี้ยงชีพและหาเงินให้ลูกไปโรงเรียน จากความมุ่งมั่นนี้ ลูกๆ 4 คนของนาย จอง ได้กลายเป็นเจ้าหน้าที่ข้าราชการในท้องถิ่น ลูกของเขาก็พยายามให้ลูกๆได้ไปโรงเรียนเพื่อสานต่อขบวนการใฝ่การศึกษาของบรรพบุรุษ นาย เหงียนแทงจอง เผยว่า “ผมมีหลาน 2 คนที่กำลังเรียนชั้น ม.5 พวกเราให้กำลังใจลูกๆให้พวกเขาพยายามให้หลานได้ไปเรียนหนังสือเพื่อให้ครอบครัวมีเกียรติประวัติแห่งการใฝ่การศึกษา ขณะนี้ ลูกๆก็มุ่งมั่นให้หลานไปเรียนหนังสือและหลานก็เรียนเก่ง”

จนถึงปัจจุบัน “หมู่บ้านเว้” มีชาวบ้านนับสิบคนเรียนระดับอุดมศึกษา โดยเฉพาะมีชาวบ้านเรียนจบระดับปริญญาโท ปริญญาเอกและประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพในสาขาต่างๆ รุ่นพี่พารุ่นน้องก้าวรุดหน้าไปและมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ปิตุภูมิ ผู้คนรอบข้างเห็นถึงผลงานที่มีประสิทธิภาพของการ “ดูแลสนใจการไปเรียนหนังสือ” ดังนั้น การไปเรียนหนังสือที่ตำบล แค๊งบิ่งไตบั๊กจึงได้รับความสนใจและพัฒนา นาย บุ่ยชี้หง่าน รองประธานคณะกรรมการประชาชนตำบล แค๊งบิ่งไตบั๊กได้เผยว่า “ตัวอย่างดีเด่นในขบวนการศึกษาในตำบลฯมีหมู่บ้านแห่งการใฝ่การศึกษา ย้าวไบ๋มี หลายครอบครัวให้ความสนใจ ให้ลูกได้ไปเรียนหนังสือและเป็นคนดี คนรุ่นก่อนให้ความสนใจ แนะนำคนรุ่นหลังให้ก้าวรุดหน้าไป ร่วมกันพัฒนาการศึกษา ต่อมา ขบวนการใฝ่การศึกษาได้รับการพัฒนาไม่เพียงแต่ในหมู่ หมุยจ่ามบีเท่านั้น หากยังได้รับการขยายผลไปทั่วตำบลฯ”

จากความขยันหมั่นเพียรในการพัฒนาเศรษฐกิจและความมุ่งมั่นไปเรียนหนังสือ ชาวบ้านที่มีภูมิลำเนาจากจังหวัดกว๋างนามได้ช่วยให้ลูกหลานก้าวหรุดหน้าไปและประสบความสำเร็จในการสร้างฐานะในเขตกันชนป่า อูมิงห์หะ ที่ยังคงเต็มไปด้วยอุปสรรค์ สร้างเกียรติประวัติแห่งการใฝ่การศึกษาและสร้างชื่อเสียงของ “หมู่บ้านแห่งการใฝ่การศึกษาย้าวไบ๋” ในปัจจุบัน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด