เกษตรกรก่าเมาทำการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

(VOVWORLD) -จังหวัดก่าเมาเป็นจังหวัดใต้สุดของเวียดนาม เป็น 1 ในจังหวัดและนครเศรษฐกิจหลัก 4 แห่งของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง จากการที่มีชายฝั่งทะเลยาว 54 กิโลเมตร มีระบบนิเวศป่าโกงกางใบเล็กและป่าชายเลนที่ได้รับการรับรองเป็นเขตสงวนชีวมณฑลระดับโลก จังหวัดก่าเมามีเงื่อนไขทางธรรมชาติที่สะดวกเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ในเวลาที่ผ่านมา รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในชุมชนได้รับการพัฒนาอย่างเข้มแข็งที่จังหวัดก่าเมา

เกษตรกรก่าเมาทำการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ - ảnh 1จังหวัดก่าเมามีเงื่อนไขทางธรรมชาติที่สะดวกเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศชุมชนเหมื่อยหงอดได้รับการก่อตั้งเมื่อปี 2015 ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแรกๆในตำบลแค้งบิ่งเตยบั๊ก อำเภอเจิ่นวันเถ่ย นาย ฝามยวีแคง เจ้าของสถานที่ท่องเที่ยวเหมื่อยหงอดได้เผยว่า ในช่วงแรก ที่นี่มีพื้นที่ไม่กี่เฮกตาร์เท่านั้นแต่จนถึงขณะนี้ พื้นที่ของเขตท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นเป็น 60 เฮกตาร์ ครอบครัวนาย ฝามยวีแคงได้เน้นปลูกผลไม้และพัฒนาอาชีพ “ Gác kèo ong” หรือการเลี้ยงผึ้งป่าด้วยการใช้ไม้ธรรมชาติมาตั้งให้ผึ้งมาทำรัง ซึ่งเป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมระดับชาติ  โดยกำหนด “การเก็บน้ำผึ้ง”เป็นผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวหลัก   นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่จะมีโอกาสลองวางลอบจับปลาและเก็บน้ำผึ้งในป่า

“สถานที่ท่องเที่ยวเหมื่อยหงอดเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเนื่องจากมีอาชีพเก็บน้ำผึ้ง  นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่ต่างอยากลองเก็บน้ำผึ้ง   ในเวลาที่จะถึง ทางการท้องถิ่นจะจัดงานเก็บน้ำผึ้งเพื่อให้ทุกคนรู้จักอาชีพพื้นเมืองนี้มากขึ้น”

เกษตรกรก่าเมาทำการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ - ảnh 2นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่จะมีโอกาสลองวางลอบจับปลา

การที่ประชาชนในอูมิงใช้จุดแข็งที่ท้องถิ่นมีเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศได้สร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว นาง เหงวียนถิเตวี๊ยดห่ง นักท่องเที่ยวจากนครโฮจิมินห์ได้เผยว่า

“เมื่อมาที่นี่ ดิฉันรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราเห็นการวางลอบดักปลาและเราสามารถใช้มือเพื่อจับปลาได้ สนุกมาก พวกเรายังมีโอกาสเห็นรังผึ้งธรรมชาติ นี่เป็นสิ่งที่เราไม่เคยเห็นในตัวเมือง ”ถ้าหากประชาชนอูมิงใช้จุดแข็งของธรรมชาติเพื่อทำการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ชาวอำเภอหงอกเหียนก็ใช้ประโยชน์จากเส้นทางโฮจิมินห์เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ใต้ร่มป่าโกงกางใบเล็กของอำเภอหงอกเหียน ชาวท้องถิ่นได้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่สร้างเครื่องหมายการค้า เช่น “กุ้งแห้งแรกก๊ก” “ปูก่าเมา”ที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะอาชีพการทำปูบาเคี้ย นาย เหงวียนวันโฮน ผู้อำนวยการเขตท่องเที่ยวหว่างโฮน อำเภอหงอกเหียนได้เผยว่า

“ทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามเป็นจุดแข็งของที่นี่ ที่จังหวัดก่าเมา ประชาชนหลายคนมีความคิดริเริ่มพัฒนาการท่องเที่ยว เรามีความได้เปรียบคือมีแหลมก่าเมาที่ตำบลเดิ๊ดหมุย ซึ่งเอื้อให้แก่การพัฒนาการท่องเที่ยว”

นาย เตียวมิงเตี๊ยน รองผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรมการกีฬาและการท่องเที่ยวจังหวัดก่าเมาได้เผยว่า ในเวลาที่ผ่านมา จังหวัดก่าเมาเน้นลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว จนถึงขณะนี้ โดยเฉพาะหลังจากที่อาชีพ"เลี้ยงผึ้งป่า"และอาชีพทำ"ปูบาเคี้ยดอง"ได้รับการรับรองเป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมระดับชาติ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำผึ้งอูมิงหะ ปูนัมกัน กุ้งแห้งแหรกก๊ก เป็นต้นเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ในปีนี้ จังหวัดก่าเมาจะก่อสร้าง “หมู่บ้านวัฒนธรรมการท่องที่ยว”ที่ตำบลเดิ๊ดหมุยเพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวศึกษาอาชีพพื้นเมือง ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น นาย เตียวมิงเตียนได้เผยว่า

“การท่องเที่ยวชุมชนเป็นผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวหลักของท้องถิ่น ในกรอบการปฏิบัติโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวในปี 2021 จังหวัดก่าเมาจะกำหนดแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวการเกษตรผสานกับผลิตภัณฑ์ OCOP ของจังหวัดเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์”

ปัจจุบัน จังหวัดก่าเมามีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศชุมชน 14 แห่ง การที่ประชาชนทำการท่องเที่ยวเชิงนิเวศชุมชนช่วยเพิ่มความหลากหลายของหน่วยงานการท่องเที่ยวของจังหวัดฯ มีส่วนร่วมพัฒนาการท่องเที่ยวให้กลายเป็นหน่วยงานเศรษฐกิจหลักของท้องถิ่น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด