“ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ภัยธรรมชาติและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศ แต่ภายใต้การชี้นำและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดของกรมการเมือง คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์และรัฐบาล ตลอดจนความพยายามของกระทรวง หน่วยงาน และส่วนท้องถิ่นต่างๆ รวมถึงประชาชนทั้งสองประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างลาวกับเวียดนามยังคงมีการพัฒนาอย่างดีงาม โดยบรรดาผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศได้มีการพบปะหารือและแลกเปลี่ยนในหลากหลายรูปแบบ ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกไม่สามารถทำได้ในช่วงเวลานั้น”

นายคำเจน วงศ์โพธิ์สี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนลาว

จนถึงปัจจุบัน มีโครงการลงทุนของผู้ประกอบการเวียดนามถึง 417 โครงการในลาว รวมเม็ดเงินลงทุนราว 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ อยู่ในอันดับที่ 3 จาก 54 ประเทศที่มีการลงทุนในประเทศลาว ซึ่งในนั้น ได้มีการดำเนินหลายโครงการอย่างมีประสิทธิภาพและมีส่วนช่วยต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างมาก รวมถึงการจัดเก็บรายได้เข้างบประมาณแผ่นดิน การสร้างงานสร้างอาชีพ การฝึกอบรมและยกระดับทักษะอาชีพให้แก่แรงงาน การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานส่วนท้องถิ่น ซึ่งได้รับการยอมรับและชื่นชมจากรัฐบาลลาว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนาม เหงวียโห่งเยียน เผยว่า ถึงแม้ผลลัพธ์ที่ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ แต่ก็ยังไม่ทัดเทียมกับศักยภาพความร่วมมือทางการค้าระหว่างทั้งสองฝ่าย เนื่องจากยังมีจุดอ่อนและข้อจำกัดหลายประการ รวมถึงสาเหตุต่างๆ เช่น นโยบายในการดึงดูดการลงทุนภาคการผลิตและแปรรูป โครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคมขนส่ง เป็นต้น

“จากประสบการณ์จริงที่เป็นรูปธรรมได้แสดงให้เห็นว่า การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมต้องควบคู่กับการพัฒนาด้านการคมนาคมขนส่ง ซึ่งหมายความว่า ไม่เพียงแค่อำนวยความสะดวกในการเดินทางเท่านั้น แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือการพัฒนาด้านการคมนาคมขนส่งก็เท่ากับการพัฒนาเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ เปิดโอกาสแห่งการพัฒนาอันกว้างใหญ่ เพื่อสามารถมีการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม เขตการค้าและให้บริการ รวมถึงเขตเมืองใหม่หลายแห่ง ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาทั้งในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนาม เหงวียโห่งเยียน (ภาพจาก congthuong.vn)

ในช่วงต้นปี 2022 ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันในการประเมินและวิเคราะห์โอกาสการลงทุนในประเทศลาวสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการเวียดนามจนถึงปี 2025 โดยมีการกำหนดแนวทางจนถึงปี 2030 ซึ่งส่งเสริมและให้ความสำคัญต่อการลงทุนด้านการเกษตรอินทรีย์ อุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป รวมถึงด้านที่เป็นจุดแข็งตามแนวชายแดนเวียดนาม-ลาว ที่มีส่วนช่วยต่อการแก้ปัญหาความยากจนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ นอกจากนั้น ทั้งสองประเทศจะพยายามเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นร้อยละ 10-15 ในปีนี้ ตามเป้าหมายที่วางไว้ในช่วงปี 2021-2025 พร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการและประชาชนในพื้นที่เขตแดนของทั้งสองประเทศในการแลกเปลี่ยนทางการค้า นายสอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรีลาว ได้ย้ำว่า

“โครงการลงทุนต่างๆ ของเวียดนามในประเทศลาวมีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของลาว ในเวลาข้างหน้า รัฐบาลลาวจะกำชับให้กระทรวงและหน่วยงานทุกระดับ รวมถึงส่วนท้องถิ่นต่างๆ มีความร่วมมือกับฝ่ายเวียดนามอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

ทั้งนี้ ณ ปัจจุบัน เวียดนามได้มีการลงทุนทั่วทุกพื้นที่ของลาวในหลายด้าน เช่น การเงิน โทรคมนาคม การบริการ การเกษตรและป่าไม้ เป็นต้น ซึ่งศักยภาพการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศยังคงมีอยู่อีกมาก ด้วยเป้าหมายที่ตั้งไว้คือมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศมีการขยายตัวเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 10-15 ต่อปี บนพื้นฐานของการพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต.