เด็กๆพร้อมสมาชิกของคณะฯถ่ายรูปด้วยกัน

“พวกเราเน้นถึงการเพิ่มทักษะความสามารถของเยาวชนอินโดนีเซียเกี่ยวกับปัญหาสังคม การศึกษาและวัฒนธรรมในประเทศอินโดนีเซียและโลก  ซึ่งในนั้น มีกิจกรรม “Friendship from IndonesiaหรือFFI”เพื่อแสวงหามาตรการช่วยเหลือกัน  ผ่านการเดินทางดังกล่าว พวกเราหวังว่า จะเพิ่มความรู้เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในประเทศอินโดนีเซีย”

นาง Nurul Hudayah อายุ22ปี เจ้าหน้าที่ด้านการสื่อสารของIFS ที่ร่วมเดินทางไปต่างประเทศพร้อมสมาชิก  ก่อนหน้านั้น นาง Nurul Hudayah เป็นนักศึกษาคณะบัญชีของมหาวิทยาลัยYogyakartaแต่จากความหลงใหลในงานด้านสังคมเธอได้ตัดสินใจเข้ามาทำงานในIFS  เธอเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ขยันขันแข็งขององค์การนับตั้งแต่ได้รับการจัดตั้ง  เธอพร้อมกับคุณ Rani Wulandari หัวหน้าขององค์การและเจ้าหน้าที่คนอื่นอีก15คนได้พยายามช่วยเหลือเยาวชนในการเดินทาง    แต่ละเดือน IFS ได้จัดกิจกรรมการกุศล1-2ครั้งในต่างประเทศและกิจกรรมการกุศลภายในประเทศ  จากการเป็นองค์การที่ดำเนินงานโดยไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆของIFS สมาชิกทุกคนต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง นางNurul Hudayah ได้เผยว่า “พวกเรามีจดหมายแนะนำให้แก่สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการFFI  เพื่อช่วยให้พวกเขาแสวงหาผู้สนับสนุนเพราะไม่ใช่สมาชิกทุกคนจะมีฐานะดี  เพื่อมีเงินเข้าร่วมโครงการนี้ เยาวชนส่วนใหญ่ต้องหาผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายเอง”

ภายหลัง6เดือนที่ได้รับการจัดตั้ง เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี2017 องค์การIFSได้จัดกิจกรรมแรกในเวียดนามคือการเยือนหมู่บ้านมิตรภาพเวียดนาม  โดยสมาชิกมีโอกาสพบปะและเรียนรู้เกี่ยวกับผู้ด้อยโอกาส ซึ่งเป็นลูกของทหารผ่านศึกและทหารผ่านศึกเวียดนามที่โดนสารพิษสีส้มไดอ๊อกซินในช่วงสงคราม  หลังการเยือนนี้ องค์การIFSยังศึกษาเกี่ยวกับองค์การในเวียดนามที่ต้องการความช่วยเหลือจากสังคม  ในกรอบการเยือนเวียดนามเป็นเวลา4วันเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา คณะขององค์การIFSได้เดินทางไปเยือนบ้านสงเคราะห์เด็กมิตรภาพด๊งดาและหมู่บ้านสงเคราะห์เด็ก เอสโอเอส

นี่คือห้องเรียนของเด็กอายุ4ขวบในหมู่บ้านสงเคราะห์เด็กเอสโอเอสเมื่อคณะขององค์การIFSมาเยือน เด็กเกือบ30คนพร้อมสมาชิกของคณะฯร่วมกันร้องเพลง ทำกิจกรรมต่างๆและถ่ายรูปด้วยกัน ในโอกาสนี้ เยาวชน25คนได้มอบข้าว100กิโลกรัมและนม นี่เป็นครั้งแรกที่คุณ Rina Sulistiana สมาชิกขององค์การIFS มาเยือนที่นี่ เธอเผยว่า “ดิฉันได้มีโอกาสมาเยือนที่นี่และก็รู้สึกเศร้าใจที่เห็นเด็ก ๆ ถูกทิ้งในเวียดนามและอินโดนีเซีย  เด็กคืออนาคตของประเทศและต้องได้รับสิ่งที่ดีที่สุด  โชคดีมากที่มีองค์การต่างๆอย่างเช่นเอสโอเอสที่ช่วยให้เด็กกำพร้ารู้สึกอบอุ่นเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว”

นาย เหงวียนวันซิง ผู้อำนวยการหมู่บ้านสงเคราะห์เด็กเอสโอเอสได้ชื่นชมกิจกรรมต่างๆของคณะฯว่า “นักศึกษาและองค์การสังคมต่างๆมีเป้าหมายศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมสังคมและปัญหาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดี ผมชื่นชมการที่สมาชิกของคณะฯเป็นฝ่ายรุกในการศึกษาการใช้ชีวิตและการดำเนินงานของหมู่บ้าน”

ปัจจุบัน สมาชิกขององค์การIFSเพิ่มขึ้นเป็น200คน  ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังการเดินทางมายังเวียดนาม องค์การIFSก็เดินทางไปยังประเทศสาธารณรัฐเกาหลีและในเดือนพฤษภาคมไปเยือนกัมพูชาและมาเลเซีย  จากจิตใจและความพยายามของตน สมาชิกขององค์การIFSได้นำความรักไปมอบให้แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม.