เจดีย์ ญาน

ในตัวเมืองนครตวีหว่า จุดที่โดดเด่นต้องแวะเยือนคือ เจดีย์ ญาน ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ที่เป็นสถานบูชาเทพของชาวจามในอดีต  ยอดเขาจ่าย ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการไต่เขาและท่องเที่ยวแบบผจญภัย แม่น้ำด่าหรั่งหรือแม่น้ำบาที่โอบล้อมรอบนครตวีหว่าพร้อมสะพานด่าหรั่งเชื่อมสองฝั่งที่แสนโรแมนติกถือเป็นอีกจุดชมวิวที่น่าทึ่ง ในตัวเมืองนครตวีหว่ายังมีโบสถ์โบราณ หมั่งลัง ที่ถูกระบุในคู่มือกาท่องเที่ยวตวีหว่า โดยโบสถ์แห่งนี้มีอายุกว่าร้อยปีซึ่งถือว่าเก่าแก่อันดับต้นๆของเวียดนามและโบสถ์หมั่งลังสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคที่สวยสง่าและสุขุม นอกจากนี้ในโบสถ์หมั่งลังยังเก็บรักษาหนังสือภาษาก๊วกหงือฉบับแรกของเวียดนามด้วย คุณบุ่ยแทงยูง นักท่องเที่ยวจากฮานอยกล่าวว่า“หนีความแออัดของตัวเมืองใหญ่ๆอย่างฮานอย เพื่อเดินทางจังหวัดฟู้เอียน แผ่นดินที่สงบสุขและสวยงามเราทุกคนต่างรู้สึกจิตใจปลอดโปร่งและเพลิดเพลินกับธรรมชาติที่แสนโรแมนติก วิถีชีวิตเรียบง่ายเป็นกันเอง ชายหาดสวยน้ำทะเลใสเย็น แม้การท่องเที่ยวในฟู้เอียนยังไม่มีการพัฒนามากแต่เราชอบความเรียบง่ายและความเป็นกันเองของผู้คนในท้องถิ่น”

ถ้าใครชอบสูดกลิ่นอายจากทะเลอย่างเต็มอิ่มก็แนะนำให้เดินทางไปที่เกาะ ห่อนลาวม้ายญ่า ซึ่งเป็นกลุ่มเกาะเล็กๆกลางทะเลห่างจากชายฝั่งเมืองตวีหว่าไปทางทิศเหนือประมาณ๒๗กิโลเมตร เกาะแห่งนี้ยังคงความเป็นธรรมชาติและถือเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศการเที่ยวเชิงการค้นคว้าวิถีชีวิตชาวท้องถิ่นเพราะบนเกาะยังไม่มีการบริการท่องเที่ยวที่สมบูรณ์ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีโรงแรมที่พักและร้านอาหาร คุณดึ๊กเยือง นักท่องเที่ยวจากจังหวัดแทงฮว้าเผยว่า“ผมกับครอบครัวเลือกมาค้นคว้าเกาะกู่ลาวม้ายญ่านี้เพราะนี่เปรียบเสมือนเป็นเกาะโรบินสันครูโซ ซึ่งมาแล้วก็เห็นว่าคุ้มค่ามาก นี่เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ เกาะกู่ลาวม้ายญ่ายังมีความธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ แปลกใหม่และแสนโรแมนติก เราได้เตรียมพร้อมอาหารและอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆอย่างครบครันเพื่อใช้ชีวิตแบบชาวบ้านอย่างแท้จริง”

หมู่เสาหิน Ghenh Da Dia อยู่ห่างจากเมืองตวีหว่าประมาณ 40 กิโลเมตร  โดยใช้เวลานั่งรถราว1ชั่วโมงก็ถึง เส้นทางมุ่งไปที่หมู่เสาหิน Ghenh Da Dia นั้นคดเคี้ยวไปตามไหล่เขาซึ่งอีกด้านอยู่ติดทะเลส่วนอีกด้านเป็นภาพป่าเขาธรรมชาติที่ถูกประดับประดาด้วยดอกไม้ป่าอันหลากสี  เมื่อมองจากที่ไกลๆ ทัศนียภาพธรรมชาติที่งามจับใจเป็นเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเป็นครั้งแรก ความตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวเมื่อมาถึง Ghenh Da Dia คือภาพของหมู่เสาหินธรรมชาติที่มีลักษณะคล้ายๆกับ เดอะไจแอนท์ คอสเวย์ -The Giant’s Causeway ในไอร์แลนด์เหนือ โดยมีเสาหินขนาดมหึมาที่มีลักษณะ6เหลี่ยมหลายหมื่นต้นยื่นขึ้นมาจากทะเลโดยเสาหินยักษ์เหล่านี้ได้เกิดขึ้นซ้อนๆกัน เหมือนการเอาจิ๊กซอว์ยักษ์มาต่อกันเป็นชั้นๆมีรูปร่างคล้ายกับรังผึ้งขนาดยักษ์ และก็มีเสาหินกลมๆหน้าเรียบเหมือนชามขนาดใหญ่ที่ทับซ้อนกันจนชาวบ้านได้ตั้งชื่อว่า Ghenh Da Dia

หอประภาคาร ด๋ายแหลง

สำหรับผู้ที่อยากเก็บภาพตะวันยามรุ่งอรุณที่ฟ้าใสนั้น หอประภาคาร ด๋ายแหลง คือจุดมุ่งหมายที่ต้องมาให้ได้เพราะนี่ยังถือเป็นจุดตะวันออกสุดที่รับแสงตะวันแรกของเวียดนาม เมื่อขึ้นบันไดกว่าร้อยก้าวมาอยู่บนยอดประภาคาร เชื่อว่าทุกท่านต้องไม่ผิดหวังแน่นอนเพราะจะราวกับว่ากำลังยืนกลางท้องฟ้า รับลมชมทะเลสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มอิ่ม คุณเหงวียนเฟืองถาว ผู้อำนวยการบริษัทการท่องเที่ยว S Vietnam Travel เผยว่า“นักท่องเที่ยวต่างชาติประทับใจกับแหล่งทัศนียภาพต่างๆของภาคกลางและนิยมจองทัวร์เที่ยวฟู้เอียน เยี่ยมชมหมู่เสาหิน Gềnh Đá Đĩa สัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของคนท้องถิ่น และนี่คืออีกจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างๆชาติให้มาเที่ยวเวียดนาม”

นอกจากมีแหล่งทัศนียภาพที่สวยงามแล้ว เมื่อมาเที่ยวท้องถิ่นริมฝั่งทะเลสิ่งที่ทุกคนไม่ควรพลาดอีกก็คือลิ้มลองอาหารทะเลที่สดใหม่และอร่อยจับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมนูพิเศษและแปลกใหม่ที่เป็นไฮไลท์ในเมนูอาหารทะเลของฟู้เอียนคือ ตาปลาทูน่าต้มสมุนไพร ซึ่งเป็นเมนูที่เชื่อว่าหลายคนฟังแล้วต้องสงสัยแน่ว่ามันคืออะไร ถ้าท่านอยากรู้ว่ามันคืออะไรและมีรสชาดอย่างไรก็เชิญมาเที่ยวเวียดนามเพื่อค้นคว้าสิ่งแปลกใหม่ได้เลย./.