นักดนตรีอานเทวียน-ผู้ที่แต่งเพลงสมัยใหม่ในแนวพื้นเมืองแห่งผืนดินเหง่

( VOVworld )-นักดนตรีอานเทวียนมีชื่อเสียงและได้รับความนับถือในวงการนักดนตรีเวียดนามไม่เพียงแต่เป็นนักดนตรีรุ่นปรมาจารย์ที่มากความสามารถเท่านั้น หากยังเป็นนักแต่งเพลงที่สามารถสอดใส่แนวพื้นเมืองแห่งผืนดินเหง่ได้อย่างดีเยี่ยม  ท่านยังเป็นอาจารย์ที่ปั้นนักร้องและนักดนตรีที่มีชื่อเสียงของประเทศหลายคน


( VOVworld )-นักดนตรีอานเทวียนมีชื่อเสียงและได้รับความนับถือในวงการนักดนตรีเวียดนามไม่เพียงแต่เป็นนักดนตรีรุ่นปรมาจารย์ที่มากความสามารถเท่านั้น หากยังเป็นนักแต่งเพลงที่สามารถสอดใส่แนวพื้นเมืองแห่งผืนดินเหง่ได้อย่างดีเยี่ยม  ท่านยังเป็นอาจารย์ที่ปั้นนักร้องและนักดนตรีที่มีชื่อเสียงของประเทศหลายคน
นักดนตรีอานเทวียน-ผู้ที่แต่งเพลงสมัยใหม่ในแนวพื้นเมืองแห่งผืนดินเหง่ - ảnh 1
นักดนตรีอาน เทวียน รับถ้วยรางวัล" เพลงเวียดนาม "ประจำปี๒๐๐๗

ในวัยเด็กนักดนตรีอานเทวียนใช้ชีวิตอยู่กับเพลงพื้นเมืองและเพลงพื้นเมืองทำนองวี้ในบ้านเกิดผืนดินแห่งเหง่  เมื่อเด็กชายอาน เทวียนมีอายุ ๑๑ ขวบก็สามารถเล่นเครื่องดนตรีและเป่าขลุ่ยได้อย่างไพเราะเสนาะหูโดยเฉพาะเครื่องดนตรีพื้นบ้าน  เมื่ออายุ ๒๐ ปี หนุ่มอานเทวียนสามารถแต่งเพลง “ หนูเลือกทางเดินนี้ ”และเพลง “ ฟังเพลงพื้นบ้านยามดึกคิดถึงลุงโฮ ” เพลงสองบทนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ฟังและสร้างชื่อเสียงให้แก่ท่าน  นักดนตรีโด่ ห่ง กวน นายกสมาคมนักดนตรีเวียดนามกล่าวถึงนักดนตรีอาน เทวียนว่า  “ ท่านสามารถประพันธ์ผลงานได้สองแนว โดยแนวแรกคือจากเพลงพื้นบ้าน ท่านสามารถสืบสานประเพณีพื้นบ้านได้อย่างดีเยี่ยมโดยเฉพาะดนตรีพื้นบ้านของจังหวัดเหง่อานและห่าติ่งและดนตรีของชนเผ่าเขตเขาภาคเหนือ ท่านได้ดัดแปลงแนวพื้นเมืองให้เป็นผลงานสมัยใหม่ของตน ซึ่งเป็นผลงานที่สร้างสรรค์และน่ายกย่อง สองคือ ท่านไม่เพียงแต่แต่งเพลงและเพลงมาร์ชเท่านั้น หากยังมุ่งสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า

เพลงรักของท่านอาน เทวียนล้วนแต่งในแนวพื้นเมืองเช่น “ เว้ที่รัก ” “ นิทานน้องกับฉัน ” “ คุณแม่วีรชนเวียดนาม ” และ “ เดินทัพสู่เตยบั๊ก ” เพลงเหล่านี้ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ท่าน นักดนตรีอาน เทวียนยังแต่งละครดนตรีเรื่อง “ เจือง จี ”  “ ตะเกียบคู่ ” “ ทะเลรักร้าว ” และเพลง “ ประเทศลุกขึ้น ” ที่สามารถใช้ทำนองพื้นบ้านของจังหวัดเหง่ อานและห่า ติ่งได้ดีเยี่ยมและไพเราะ  ท่านรักผืนดินภาคกลางอย่างมิรู้วาย จนกระทั่งแม้อยู่ในนครหลวงมาหลายสิบปีแต่สำเนียงยังเป็นของคนจังหวัดเหง่ อาน   นักดนตรีอาน เทวียนเคยคุยว่า ดนตรีพื้นบ้านได้เข้าสู่จิตใจท่านตั้งแต่วัยเด็ก มันเหมือนน้ำนมแม่ที่หล่อเลี้ยงท่าน  นักดนตรีอาน เทวียนสามารถสร้างสไตล์การแต่งผลงานเป็นของตัวเองโดยดัดแปลงจากเพลงพื้นบ้าน ทั้งนี้ทำให้ผลงานของท่านมีความใกล้ชิด และความสงบสุขกับผู้ฟัง ทำให้เราคิดถึงภาพชนบทสวยงามที่มีแม่น้ำ ท่าน้ำและเรือข้ามแม่น้ำ  นักดนตรีดึ๊ก จิ่ง อธิการบดีมหาวิทยาลัยวัฒนธรรมและศิลปะแห่งกองทัพที่เคยทำงานกับนักดนตรีอาน เทวียนคุยว่า  “ คุณอาน เทวียนเกิดจากดินแดนแห่งเพลงพื้นบ้านเหง่ติ่งดังนั้นลีลาเพลงของท่านจึงเป็นแนวพื้นบ้านที่เข้าถึงจิตใจผู้ฟังได้เอง เพลงของเขามีลักษณะแห่งศิลปะสูงแต่ก็เข้าถึงใจคนได้โดยตรงจึงครองใจผู้ฟังได้นาน ”

เพลงของนักดนตรีอาน เทวียนได้รับรางวัลระดับชาติหลายรางวัล ท่านยังประพันธ์ดนตรี ประกอบภาพยนตร์ ดนตรีประกอบการระบำ งิ้วและแจ่ว  ท่านมีความตั้งใจที่จะพัฒนาดนตรีเวียดนามให้เป็นดนตรีมืออาชีพและพัฒนาดนตรีพื้นบ้าน  ท่านได้ปั้นนักร้องชื่อดังเวียดนามหลายคนเช่น ศิลปินยอดเยี่ยมแทง ทุ้ย  นักร้องโห่ กวิ่ง เฮือง  ลิวเฮืองยาง ท้าย ถุ่ย ลินห์ หงอกเควและกาซิม หว่าง หวู  ในฐานะอธิการบดีมหาวิทยาลัยวัฒนธรรมและศิลปะแห่งกองทัพท่านได้มีส่วนร่วมต่อการพัฒนาของสถาบัน  ท่านสนใจปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนให้แก่นักเรียนและเป็นอธิการบดีคนแรกที่รับนักเรียนที่ได้รับรางวัลในการประกวดร้องเพลงที่มีชื่อเสียงต่างๆเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยโดยไม่ต้องผ่านการสอบเช่น นักร้องมินห์ เจวียน  เหงวียน ดิ่นห แทง เติม  เฮือง จ่ามและยา ซุย รวมถึงนักศึกษาชนกลุ่มน้อยได้กลายเป็นศิลปินที่มากความสามารถและมีส่วนร่วมต่อวงการดนตรีเวียดนาม  นักดนตรี ดึ๊ก จิ่ง เห็นว่า  “ นักดนตรีอาน เทวียนได้สร้างสรรค์มหาวิทยาลัยให้เป็นสถาบันที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะสามารถผลิตนักร้องและศิลปินที่มีชื่อเสียงหลายคน  ท่านหลงไหลในอาชีพและให้ความสนใจต่อคนรุ่นใหม่ โดยเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ศึกษาและสร้างผลงานจนกลายเป็นผู้ที่มีความสามารถ ท่านยังค้นพบผู้มีความสามารถได้หลายราย  นี่คือสิ่งที่เราต้องเรียนรู้จากท่าน ”

จากผลงานเพลงที่โดดเด่นคือ “ หนูเลือกทางเดินนี้ ”  “ ฟังเพลงพื้นบ้านยามดึกคิดถึงลุงโฮ ” “ เดินทัพสู่เตยบั๊ก ”นักดนตรีอาน เทวียนได้รับรางวัลของรัฐสาขาศิลปะและวัฒนธรรม  พลตรีอาน เทวียนนักดนตรีที่ปรีชาสามารถของวงการดนตรีเวียดนามได้จากพวกเราไปอย่างไม่มีวันกลับในวัย ๖๕ แต่ท่านได้ทิ้งผลงานเพลงที่ยังตราตรึงใจผู้ฟังตลอดกาล  ผู้ที่รักดนตรีและผู้ที่ทำงานด้านศิลปะจะจดจำนายพลที่ปรีชาสามารถด้านดนตรีของกองทัพประชาชนเวียดนามตราบนานเท่านาน ./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด