30 ปีการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศและบทเรียนทางการทูตอันล้ำค่า

(VOVworld) – ปี 2016 เป็นนิมิตหมายแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่และพัฒนาประเทศเป็นเวลา 30 ปี ซึ่งได้ช่วยให้เวียดนามพัฒนาจากประเทศที่มีรายได้ต่ำเป็นประเทศที่มีรายได้ ปานกลางและอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยกว่าร้อยละ 6 ต่อปี ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งผลสำเร็จเหล่านี้มีส่วนร่วมไม่น้อยของหน่วยงานการทูตเวียดนาม ที่ช่วยให้เวียดนามผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างขวางและนับวันยิ่งมี สถานะสูงกว่าบนเวทีโลก

(VOVworld) – ปี 2016 เป็นนิมิตหมายแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่และพัฒนาประเทศเป็นเวลา 30 ปี ซึ่งได้ช่วยให้เวียดนามพัฒนาจากประเทศที่มีรายได้ต่ำเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลางและอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยกว่าร้อยละ 6 ต่อปี ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งผลสำเร็จเหล่านี้มีส่วนร่วมไม่น้อยของหน่วยงานการทูตเวียดนาม ที่ช่วยให้เวียดนามผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างขวางและนับวันยิ่งมีสถานะสูงกว่าบนเวทีโลก

30 ปีการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศและบทเรียนทางการทูตอันล้ำค่า - ảnh 1

ในภาพรวมแห่งการพัฒนาประเทศ งานด้านการต่างประเทศมีส่วนร่วมเป็นอย่างมาก 30 ปีปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศได้ถอดบทเรียนและประสบการณ์อันล้ำค่าให้แก่งานการต่างประเทศ
ถือประโยชน์ของประเทศและประชาชาติเหนือกว่าสิ่งอื่นใด
หลังการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศมาเป็นเวลา 30 ปี ความสัมพันธ์กับต่างประเทศของเวียดนามได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างลึก ดังคำยืนยันของนายบุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่า ด้านการต่างประเทศได้มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดีดังกล่าว “เวียดนามได้สถาปนาความสัมพันธ์กับ 185 ประเทศในจำนวน 193 ประเทศสมาชิกของสหประชาชาติ นอกจากนี้เวียดนามได้เข้าเป็นสมาชิกขององค์การระหว่างประเทศและภูมิภาค 70 องค์กร ซึ่งได้มีบทบาทอย่างเข้มแข็ง เป็นฝ่ายรุกและมีความรับผิดชอบ ส่วนเสียงพูดของเวียดนามบนเวทีโลกก็ได้รับความเคารพจากประเทศต่างๆทั้งในภูมิภาคและโลก โดยความคิดริเริ่มต่างๆของเราได้รับคำชื่นชมจากประชาคมระหว่างประเทศ”
เวียดนามยังมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งและสร้างนิมิตหมายในฟอรั่มพหุภาคีต่างๆ ดำเนินตำแหน่งสำคัญในกลไกความร่วมมือพหุภาคี เช่น เป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2008-2010 คณะกรรมการเศรษฐกิจสังคมของสหประชาชาติ คณะกรรมการมรดกขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก โดยเฉพาะงานด้านชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศได้ประสบผลสำเร็จที่น่ายินดีในเวลาที่ผ่านมา
ผลสำเร็จดังกล่าวมาจากงานด้านการต่างประเทศของเวียดนามได้ถือประโยชน์ของประเทศและประชาชาติเหนือสิ่งอื่นใด ในภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ เวียดนามตระหนักได้ดีอยู่เสมอว่า ต้องรักษาบรรยากาศสันติภาพ เสถียรภาพ ระดมพลังทุกแหล่งเพื่อพัฒนาประเทศ แต่ก็ต้องยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณะภาพแห่งดินแดน ขยายความสัมพันธ์กับนานาประเทศ รัฐมนตรีช่วยบุ่ยแทงเซินเผยว่า “นี่คือทั้งหลักการและเป้าหมาย โดยในตลอด 30 ปีที่ทำการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ เราได้แก้ไขสถานการณ์ในแต่ละช่วงอย่างคล่องตัวด้วยนโยบายที่เหมาะสมและใช้โอกาสการสนับสนุนจากเพื่อนมิตรนานาชาติต่อภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศของเวียดนาม”
รัฐมนตรีช่วยบุ่ยแทงเซินเผยต่อไปว่า หลังการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศเป็นเวลา 30 ปี การทูตได้มีการผสมระหว่างพลังที่เข้มแข็งของประชาชาติกับพลังของยุคใหม่ ซึ่งเป็นบทเรียนที่ประธานโฮจิมินห์ได้ย้ำถึงในขณะที่หน่วยงานการทูตเวียดนามได้เพิ่งรับการก่อตั้ง ในตลอด 30 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ ในแต่ละระยะเวลาจะมีสถานการณ์แตกต่างกัน เวียดนามได้ปฏิบัติบทเรียนนี้อย่างคล่องตัวจนประสบความสำเร็จ

30 ปีการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศและบทเรียนทางการทูตอันล้ำค่า - ảnh 2
นายบุ่ยแทงเซิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

พัฒนาผลสำเร็จในยุคแห่งการผสมผสานใหม่
ปัจจุบันนี้ สถาวการณ์โลกได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้ง รวดเร็วและซับซ้อน หลายภูมิภาคไร้เสถียรภาพ เหตุก่อการร้าย การอพยพ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้ส่งผลกระทบในทางลบต่อเกือบทุกประเทศและภูมิภาค ในสภาวการณ์ดังกล่าว งานด้านการต่างประเทศต้องผลักดันการวิจัยและพยากรณ์สถานการณ์อย่างถูกต้อง เป็นฝ่ายรุกและฉับไวมากขึ้นเพื่อวางยุทธศาสตร์และนโยบายที่เกาะติดสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ คล่องตัวและค้ำประกันผลประโยชน์ของประชาชาติ ใช้โอกาสและแก้ไขภัยคุกคามต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อมีส่วนร่วมสร้างพลังที่เข้มแข็งและสถานะให้แก่ประเทศ รัฐมนตรีช่วยบุ่ยแทงเซินเผยว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว งานด้านการต่างประเทศต้องเน้นปฏิบัติหน้าที่หลัก โดยหน้าที่อันดับแรกคือปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศที่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้วางไว้ในการประชุมสมัชชาใหญ่สมัยที่ 12 โดยย้ำถึงสองประเด็น หนึ่งคือ ยกระดับงานด้านการต่างประเทศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นฝ่ายรุกในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ปฏิบัติเป้าหมายคือรักษาบรรยากาศสันติภาพและเสถียรภาพเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สองคือยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณะภาพแห่งดินแดนและหน้าที่อันดับสามคือพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับบรรดาประเทศเข้าสู่ส่วนลึก “เพื่อปฏิบัติเป้าหมายดังกล่าวต้องร่างโครงการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม พวกเรากำลังย่างเข้าสู่ระยะแห่งการผสมผสานใหม่หลังจากที่ได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีหรือพหุภาคี ดังนั้นหน้าที่ของเราในเวลาข้างหน้าคือ ประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างสมบูรณ์ให้ชมรมสถานประกอบการรับทราบเกี่ยวกับโอกาสและความท้าทายเพื่อแปรความท้าทายมาเป็นโอกาสในการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก”
ปี 2016 เป็นปีแรกที่เวียดนามปฏิบัติแนวทางการต่างประเทศและแนวทางใหญ่ของพรรคเกี่ยวกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมระยะปี 2016-2020 การถือประโยชน์ของประเทศและประชาชาติเหนือกว่าสิ่งอื่นใด ยืนหยัดเอกราช เป็นตัวของตัวเอง เป็นฝ่ายรุกและเข้าร่วมการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างเข้มแข็งบนพื้นฐานของความเสมอภาค เอื้อประโยชน์ต่อกัน พัฒนาพลังที่เข้มแข็งของประชาชาติกับพลังของยุคใหม่เพื่อสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิเวียดนามสังคมนิยม นั่นคือแนวทางของภารกิจการต่างประเทศเวียดนามในเวลาข้างหน้า.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด