การปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรีประสบความสำเร็จสำคัญมากมายทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี

(VOVWORLD) - นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และคณะผู้แทนระดับสูงของเวียดนามเพิ่งเสร็จสิ้นการเยือนและปฏิบัติภารกิจที่สหรัฐและสหประชาชาติ รวมถึงการเข้าร่วมการประชุมระดับสูงพิเศษอาเซียน-สหรัฐ ซึ่งล้วนแต่เป็นภารกิจที่มีความหมายและบรรลุผลงานที่สำคัญทั้งในระดับพหุภาคีและทวิภาคี
การปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรีประสบความสำเร็จสำคัญมากมายทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี - ảnh 1นายกรัฐมนตรี ฝ่าม มิงห์ ชิ้ง และประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน (VNA)

ด้วยกิจกรรมมากกว่า 60 กิจกรรมทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคีทั้งในระดับอาเซียนและระดับโลก การไปปฏิบัติภารกิจที่สหรัฐและสหประชาชาติในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่เข้มแข็ง มีส่วนร่วมยกระดับการต่างประเทศระดับพหุภาคีและกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีกับสหรัฐซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนสำคัญชั้นนำของเวียดนามภายหลังเกือบ 3 ทศวรรษของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตให้มีความลึกซึ้งมากขึ้น

แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของอาเซียนต่อภูมิภาคและโลก

ในการประชุมระดับสูงพิเศษเพื่อฉลองครบรอบ 45 ปีความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับสหรัฐ เวียดนามได้เป็นฝ่ายรุกในการเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งและมีความรับผิดชอบ โดยเฉพาะ คำแถลงของนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้สะท้อนให้เห็นถึงความสนใจร่วมกันของประเทศต่างๆ ให้ความสำคัญต่อบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ความจริงใจ ความไว้วางใจ และความรับผิดชอบและการแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์เกี่ยวกับปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลก และแนวทางการพัฒนาที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของอาเซียน สหรัฐและประชาคมระหว่างประเทศ

เวียดนามและบรรดาผู้นำอาเซียนได้ประสานกับหุ้นส่วนสหรัฐเพื่ออนุมัติแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมอาเซียน-สหรัฐ นำความสัมพันธ์ทวิภาคีเข้าสู่ระยะใหม่คือการยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้าน ที่ประชุมได้กำหนดแนวทางความร่วมมือในเวลาที่จะถึง

จุดเด่นของการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้คือนายกรัฐมนตรี ฝ่าม มิงห์ ชิ้ง เป็นผู้นำอาเซียนเพียงคนเดียวที่กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับนโยบาย ณ ศูนย์ยุทธศาสตร์และการวิจัยระหว่างประเทศหรือ CSIS ในโอกาสนี้และเป็นผู้นำคนแรกของเวียดนามที่กล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมากจากวงการนักการเมืองในสหรัฐ ประชามติภายในประเทศและต่างประเทศ

การปฏิบัติภารกิจของนายกรัฐมนตรีประสบความสำเร็จสำคัญมากมายทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี - ảnh 2นายกรัฐมนตรี ฝ่าม มิงห์ ชิ้งเป็นผู้นำคนแรกของเวียดนามที่กล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (VNA)

การกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐให้แน่นแฟ้นมากขึ้น

นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมกิจกรรมทวิภาคีหลายกิจกรรมนับตั้งแต่เริ่มเดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เมืองบอสตัน นครนิวยอร์กและซานฟรานซิสโก นี่คือการพบปะหารือโดยตรงในระดับสูงสุดและครอบคลุมที่สุดระหว่างสองประเทศภายหลังเกือบ 2 ปีชะงักเนื่องจากการแพร่ระบาด นายกรัฐมนตรีได้เข้าพบประธานาธิบดีโจ ไบเดน รองประธานาธิบดี กมลา ฮาริส ประธานวุฒิสภาสหรัฐ แพทริก ลีฮี ประธานสภาล่าง เปโลซี บรรดารัฐมนตรีคนสำคัญในคณะรัฐมนตรี นักวิชาการ สถานประกอบการและกลุ่มบริษัทชั้นนำของสหรัฐ นอกจากนี้ ผู้นำกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ยังได้เข้าร่วมการประชุม พบปะหารือกับหุ้นส่วนต่างๆในทุกด้านกว่า 40 ครั้ง

ในการพบปะครั้งต่างๆดังกล่าว ทางการสหรัฐให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์กับเวียดนาม ยืนยันถึงการให้ความเคารพระบอบการเมือง สนับสนุนเวียดนามที่แข็งแกร่ง อิสระและเจริญรุ่งเรือง มีความประสงค์ว่าความสัมพันธ์ทวิภาคีนี้จะพัฒนาอย่างกว้างลึกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม เหงียนห่งเยียนยืนยันว่า

“ฝ่ายสหรัฐชื่นชมศักยภาพและความได้เปรียบในการร่วมมือและลงทุนในตลาดเวียดนาม ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงนโยบายเพื่อดึงดูดการลงทุน พวกเขามีความเชื่อมั่นต่อนโยบายที่เปิดกว้างและโปร่งใสและสิ่งที่พวกเขาได้บรรลุในเวียดนามในหลายปีที่ผ่านมา ด้วยความได้เปรียบและศักยภาพของเรา โดยเฉพาะยุทธศาสตร์อาเซียน สหรัฐที่ถูกระบุไว้ ผมเชื่อมั่นว่า มูลค่าการค้าระหว่างเวียดนามกับสหรัฐจะเติบโตในระดับสูงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ เหงียนแหม่งหุ่ง กล่าวว่า เขาตระหนักถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับสหรัฐในด้านเทคโนโลยีที่มีความเท่าเทียมกันมากขึ้นผ่านการเยือนครั้งนี้

 “ในการประชุมกับหุ้นส่วนด้านเทคโนโลยีของสหรัฐ ทั้งสองฝ่ายได้กล่าวถึงการยกระดับความร่วมมือทางเทคโนโลยี โดยไม่ใช่แค่ผู้ซื้อและผู้ขายเท่านั้น หากทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือในการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับตลาดเวียดนาม ตลาดสหรัฐและตลาดโลก ความร่วมมือระหว่างบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐและเวียดนามในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายการค้าของทั้งสองฝ่าย”

นายกรัฐมนตรียังเดินทางไปเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่และให้การต้อนรับผู้นำของกลุ่มบริษัทและสถานประกอบการชั้นนำของสหรัฐ รับฟัง แลกเปลี่ยนความสนใจและความปรารถนาของสถานประกอบการ และยืนยันว่า เวียดนามมีแนวทางที่เสมอต้นเสมอปลายในการอำนวยความสะดวก ถือผลประโยชน์ของนักลงทุนคือผลประโยชน์ของตนเอง และให้ความสำคัญต่อความร่วมมือและการลงทุนในด้านเศรษฐกิจสีเขียว เทคโนโลยีใหม่ การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลและนวัตกรรม กลุ่มบริษัททุกแห่งต่างยืนยันว่า เวียดนามมีบทบาทที่สำคัญในยุทธศาสตร์ประกอบธุรกิจของตน เป็นตลาดที่มีศักยภาพที่พวกเขากำลังมุ่งสู่และมุ่งมั่นที่จะขยายการลงทุนในเวียดนาม ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามและมอบข้อตกลง 25 ฉบับระหว่างสถานประกอบการของทั้งสองประเทศ

ถึงแม้หมายกำหนดการจะมีภารกิจที่ต้องปฏิบัติมากมาย แต่นายกรัฐมนตรีก็ยังคงเดินทางไปพบปะกับชุมชนชาวเวียดนามในสหรัฐโดยยืนยันอย่างชัดเจนถึงนโยบายของพรรคและรัฐคือถือชาวเวียดนามโพ้นทะเลเป็นส่วนที่สำคัญและไม่สามารถแยกออกจากกลุ่มมหาสามัคคีของประชาชาติได้

ในกรอบการเยือน นายกรัฐมนตรีได้พบปะกับผู้นำของสำนักงานที่สำคัญต่างๆของสหประชาชาติ ซึ่งได้รับความเห็นพ้อง การชื่นชมและคำมั่นที่จะเดินพร้อมกับสหประชาชาติต่อนโยบายที่ถูกต้องของเวียดนามเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่และการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก บรรดาผู้นำของสหประชาชาติยังยืนยันอีกครั้งว่า เวียดนามเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญ เป็นตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จเกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนและความสามารถในการมีส่วนร่วมต่อกิจกรรมที่สำคัญๆของสหประชาชาติ

การเยือนสหรัฐครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี ฝ่าม มิงห์ ชิ้งและคณะผู้แทนระดับสูงของเวียดนามได้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ มีส่วนร่วมปฏิบัติแนวทางด้านการต่างประเทศของพรรคและรัฐเวียดนามให้ประสบผลสำเร็จ โดยเฉพาะ มติของที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯสมัยที่ 13 เกี่ยวกับ "การส่งเสริมและยกระดับประสิทธิภาพของงานด้านการต่างประเทศและการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกต่อไป"./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด