(VOVworld)- การประชุมสหประชาชาติเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนหรือ Rio+20ที่เปิดขึ้น ณ กรุง ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิลในวันที่20มิถุนายนนี้โดยมีผู้นำจาก130ประเทศและผู้แทนอีกหลายหมื่นคนที่เป็นผู้อำนวยการบริษัทและองค์กรพลเรือนต่างๆเข้าร่วมนั้นจะเน้นประเมินความก้าวหน้าต่างๆของโลกในการมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนและขจัดความยากจนรวมทั้งร่างและผ่านความเห็นชอบแนวทางนโยบายยุทธศาสตร์ใหม่เพื่อวางหลักการณ์พื้นฐานแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทั่วโลก แต่ถึงอย่างไรก็ดี เป้าหมายนี้ยากที่จะบรรลุได้เนื่องจากทั่วโลกกำลังต้องรับมือกับความท้าทายนานัปการ

ภายใต้หัวข้อ อนาคตที่เราต้องการ ที่ประชุมริโอ+20ครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่21เมื่อตั้งเป้าไว้ว่าต้องเเสวงหาความเห็นพ้องกันในหลายปัญหา โดยเฉพาะการพัฒนาอย่างยั่งยืนหลังปี2015 ซึ่งเป็นปีที่ต้องเสร็จสิ้นการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษต่างๆ ซึ่งตามความเห็นของนาย บันคีมุน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ วิสัยทัศน์ของโลกต้องระบุให้ชัดถึงการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสีเขียวที่ยั่งยืนเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรวมทั้งเพิ่มงานทำที่มีรายได้สูงและแก้ปัญหาความยากจน  บรรดานักวิเคราะห์ได้แสดงความเห็นว่า การที่ที่ประชุมริโอ+20ได้เน้นความสนใจในปัญหาต่างๆดังกล่าวก็เพราะขณะนี้โลกกำลังเผชิญกับอุปสรรคความท้าทายที่ร้ายแรงไม่ว่าจะเป็นอัตราประชากรที่ใช้เงินเลี้ยงชีพต่อวันเพียง1.25เหรียญสหรัฐหรือน้อยกว่ามีมากถึง1.4พันล้านคนในจำนวนประชากรทั้งหมด7พันล้านคน มีผู้ที่ต้องอดอยากเกือบ1พันล้านคนต่อวัน รวมไปถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่นับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้น ส่วนพืชและสัตว์กว่า1/3อาจจะสูญพันธุ์ถ้าประชาคมโลกไม่สามารถควบคุมปัญหาความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้ และมนุษย์โลกก็จะต้องมีการใช้จ่ายอย่างมหาศาลในอนาคตให้แก่ความยากจน ความไม่สงบและโลกที่เสื่อมโทรมถ้าไม่สามารถแก้ไขความท้าทายที่สำคัญในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมริโอ+20จะพยายามแสวงหามาตรการต่างๆเพื่อมุ่งส่งเสริมเศรษฐกิจแห่งสีเขียวพร้อมกับการแก้ปัญหาความยากจน หลีกเลี่ยงการทำลายระบบนิเวศทางทะเล เพิ่มการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก  นอกจากนี้ทุกประเทศจะต้องทำการบริหารป่าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเพื่อให้ถึงปี2030 สามารถลดปัญหาการทำลายป่าในทั่วโลกได้ครึ่งหนึ่งและเลี่ยงการเสียเงินประมาณ4หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเพื่อชดเชยความเสียหายจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ คาดว่าทุกประเทศยังต้องผ่านความเห็นชอบเป้าหมายที่บังคับใช้เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงด้านอาหาร การสร้างงานทำที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การให้พันธกรณีเพิ่มยอดผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศพร้อมกับการค้ำประกันในปัจจัยด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมต่างๆ

ถึงอย่างไรก็ดี บรรดาผู้เชี่ยวชาญเห็นว่า เป้าหมายต่างๆดังที่กล่าวมานี้ก็ยากที่จะบรรลุได้ในการประชุมครั้งนี้  เพื่อเตรียมให้แก่การประชุมริโอ+20นี้ ตั้งแต่เมื่อ10วันก่อนสหประชาชาติก็ได้จัดกิจกรรมอื่นๆรวมทั้งการประชุมเตรียมการที่มีผู้แทนหลายหมื่นคนเข้าร่วม และก่อนการประชุมนี้ก็ยังมีทัศนะที่แตกต่างกันเกี่ยวกับเป้าหมายที่ระบุในเอกสารของการประชุมระดับสูงสหประชาชาติว่าด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพราะเป้าหมายเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว และเมื่อลงนามในบันทึกการประชุมแล้วก็หมายความว่า ทุกประเทศต้องปรับปรุงยุทธศาสตร์ด้านนโยบาย งบประมาณแผ่นดินและความสนใจอื่นๆของตนอย่างจริงจัง ซึ่งจะก่อให้เกิดการแบ่งปันผลประโยชน์ไม่เท่ากัน สิทธิผลประโยชน์ของประเทศที่พัฒนาและกำลังพัฒนาจะได้รับผลกระทบและนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ประเทศต่างๆยากที่จะลงนามเห็นชอบ          นอกจากเอกสารทางด้านการเมืองของที่ประชุมริโอ+20แล้ว ตัวแทนรัฐบาล สถานประกอบการและองค์กรระหว่างประเทศต่างๆจะต้องประกาศพันธกรณีและความคิดริเริ่มเกี่ยวกับการผลักดันการปฏิบัติเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย พลังงานที่ยังยืนให้แก่เราทุกคน การคมนาคมขนส่งที่ยั่งยืนและสิทธิในการเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาด เป็นต้น