การประชุมสุดยอดรัสเซีย-สหรัฐ: โอกาสเพื่อแก้ไขความชะงักงันของความสัมพันธ์ทวิภาคี

(VOVWORLD) - การพบปะโดยตรงครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐ  โจ ไบเดน กับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูติน ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เป็นเหตุการณ์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากประชามติโลก ถึงแม้การพบปะไม่สร้างก้าวกระโดดที่สำคัญใดๆ แต่ก็ทำให้เห็นถึงความปรารถนาดีของทั้งสองฝ่ายในการนำความสัมพันธ์รัสเซีย-สหรัฐก้าวไปข้างหน้า สัญญาณในเชิงบวกจากการประชุมสุดยอดครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญในการแก้ไขความชะงักงันในด้านความสัมพันธ์ทวิภาคีซึ่งได้ตกต่ำที่สุดหลังจากเกิดความตึงเครียดเป็นเวลานาน
การประชุมสุดยอดรัสเซีย-สหรัฐ: โอกาสเพื่อแก้ไขความชะงักงันของความสัมพันธ์ทวิภาคี - ảnh 1การพบปะโดยตรงครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดนกับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูติน ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (AFP)

นี่ไม่ใช่เป็นการพบปะครั้งแรกระหว่างนาย โจ ไบเดน กับนาย วลาดีเมียร์ ปูติน แต่นี่เป็นการประชุมสุดยอดครั้งแรกระหว่างผู้นำทั้งสองคนนับตั้งแต่นาย โจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ การพบปะได้มีขึ้นที่เมืองเจนีวาเป็นเวลาเกือบ 4 ชั่วโมง ถึงแม้ยังมีความขัดแย้งกันมากมาย แต่ทั้งสองฝ่ายก็หารืออย่างตรงไปตรงมาและแสวงหาโอกาสร่วมมือในประเด็นที่ทั้งสองประเทศมีผลประโยชน์ร่วมกัน

ทัศนะที่แตกต่าง

ในการประชุมสุดยอด ทั้งสองฝ่ายได้แสดงให้เห็นถึงทัศนะที่แตกต่างกันในหลายประเด็น โดยทางการวอชิงตันแสดงความกังวลเกี่ยวกับการที่รัสเซียจับกุมนาย Alexei Navalny ผู้นำฝ่ายค้านของมอสโคว์และการเพิ่มการปรากฏตัวของทหารรัสเซียในเขตชายแดนในภาคตะวันออกของยูเครน สหรัฐยังกล่าวหารัสเซียว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ในสหรัฐ โดยประธานาธิบดี โจ ไบเดน ยังเน้นหนักว่า รัสเซียจะต้องรับ"ผลที่ร้ายแรง" ถ้าหากนาย Alexei Navalny ผู้นำฝ่ายค้านของรัสเซียที่กำลังถูกคุมขังอยู่ถูกสังหารหรือการโจมตีทางไซเบอร์ในสหรัฐยังคงเกิดขึ้นต่อไป ส่วนประธานาธิบดี ปูติน ได้ปฏิเสธความวิตกกังวลของวอชิงตันเกี่ยวกับการจับกุมนาย Alexei Navalny และยืนยันว่า การเพิ่มกำลังทหารรัสเซียใกล้พรมแดนทางตะวันออกของยูเครนนั้นเป็นเพียงการซ้อมรบของรัสเซียในดินแดนของตนเท่านั้น สำหรับความตั้งใจของยูเครนที่จะขอเข้าร่วมองค์การนาโต้ที่รัสเซียคัดค้านอย่างเข้มแข็งมาโดยตลอดนั้น ผู้นำรัสเซียเผยว่า "ไม่มีอะไรต้องหารือครั้งนี้"

ทั้งสองฝ่ายไม่ได้เชิญอีกฝ่ายไปเยือนกรุงวอชิงตันหรือมอสโคว์ และย้ำว่า การเยือนระหว่างกันจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่เหมาะสม

สร้างโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย

ถึงแม้ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันมากมายและไม่มีก้าวกระโดดใดๆ แต่การประชุมสุดยอดครั้งนี้ก็สะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณในเชิงบวกและความปรารถนาดีของทั้งสองฝ่ายในบางประเด็น

ที่น่าสนใจคือ ผู้นำทั้งสองประเทศได้บรรลุความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ใน 3 ประเด็นสำคัญ โดย 1 คือการมุ่งสู่เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ และตกลงที่จะจัดการทาบทามความคิดเห็นระหว่างหน่วยงานต่างๆโดยกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นฝ่ายดำเนินการเพื่อหารือการปฏิบัติสนธิสัญญาลดอาวุธโจมตีทางยุทธศาสตร์ฉบับใหม่หรือSTART-3 แถลงการณ์ร่วมยังระบุว่า วอชิงตันและมอสโคว์จะฟื้นฟูการเจรจาอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์เพื่อสร้างพื้นฐานให้แก่การควบคุมอาวุธและลดความเสี่ยงในอนาคต 2 คือด้านการต่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะส่งเอกอัครราชทูตของตนกลับไปปฏิบัติหน้าที่และฟื้นฟูกลไกการปรึกษาหารือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายซึ่งท่าทีนี้เป็นก้าวเดินที่สำคัญที่จะช่วยให้กิจกรรมของสำนักงานตัวแทนการทูตของทั้งสองประเทศกลับมาเป็นปกติอีกครั้งหลังจากต้องหยุดชะงักไปเมื่อเร็วๆนี้เพราะทั้งสองฝ่ายใช้มาตรการตอบโต้กัน รวมถึงการเนรเทศนักการทูตของอีกฝ่ายเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา สุดท้าย คือปัญหาความมั่นคงทางไซเบอร์ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะปรึกษาหารือกันอย่างเป็นรูปธรรม

ผู้นำทั้งสองประเทศยังได้มีคำแถลงในเชิงบวกหลังการประชุมโดยประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ยืนยันว่า ช่วงเวลาหลายเดือนข้างหน้าจะเป็นเวลาทดสอบผลการประชุม ณ เมืองเจนีวาเพื่อให้สหรัฐและรัสเซียสามารถเข้าถึงแนวทางการปรับความสัมพันธ์ให้ดียิ่งขึ้น ส่วนประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูติน ได้ประเมินว่า นี่เป็นการเจรจาที่ค่อนข้างเปิดเผยและตรงไปตรงมาซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างไม่พยายามสร้างแรงกดดันซึ่งกันและกัน

ถึงแม้การประชุมสุดยอดไม่บรรลุก้าวกระโดดใด ๆ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเพราะความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับสหรัฐได้ตกเข้าสู่ระดับต่ำที่สุดในเวลาที่ผ่านมา แต่สัญญาณในเชิงบวกในเบื้องต้นได้แสดงให้เห็นว่า ทั้งสองฝ่ายกำลังมีก้าวเดินอย่างระมัดระวังเพื่อมุ่งสู่ความสัมพันธ์ที่มั่นคง การที่ทั้งสองฝ่ายพร้อมรับฟังความคิดเห็นของกันเกี่ยวกับปัญหาที่ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในการประชุมสุดยอดครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งสามารถสร้างโอกาสในการหารือครั้งต่อไปเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นเพื่อปรับปรุงความสัมพันธ์ทวิภาคีรัสเซีย-สหรัฐ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด