การประชุมใหญ่แข่งขันรักชาติครั้งที่ 10 – นิมิตหมายใหม่ในขบวนการแข่งขันรักชาติ

(VOVWORLD) -การประชุมใหญ่แข่งขันรักชาติครั้งที่ 10 ภายใต้หัวข้อ “ความสามัคคี-ความคิดสร้างสรรค์-การแข่งขันเพื่อสร้างสรรค์และปกป้องปิตุภูมิ”จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 9-10 ธันวาคม ณ กรุงฮานอย  ซึ่งเป็นกิจกรรมทางการเมืองที่สำคัญเพื่อสดุดีตัวอย่างดีเด่นในขบวนการแข่งขันรักชาติ มีส่วนร่วมระดมแหล่งพลังของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติเพื่อปฏิบัติหน้าที่การพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมในเวลาที่จะถึงให้ประสบความสำเร็จ

การประชุมใหญ่แข่งขันรักชาติครั้งที่ 10 – นิมิตหมายใหม่ในขบวนการแข่งขันรักชาติ - ảnh 1

การประชุมใหญ่แข่งขันรักชาติครั้งที่ 10 มีการเข้าร่วมของผู้แทนประมาณ 2000 คน ซึ่งเป็นบุคคลและตัวแทนของหมู่คณะที่ได้รับการสดุดีเป็นวีรชนแรงงาน วีรชนกองกำลังติดอาวุธประชาชนในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่และตัวแทนดีเด่นของ 53 ชนกลุ่มน้อย  โดยเฉพาะ ตัวอย่างดีเด่น 20 คนในงานด้านการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19  เยาวชนและยุวชนดีเด่น เป็นต้น

ขบวนการแข่งขันกลายเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม

ในตลอด 5 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่การประชุมใหญ่การแข่งขันรักชาติครั้งที่ 9 ที่มีขึ้นเมื่อเดือนธันวาคมปี 2015 ขบวนการแข่งขันรักชาติได้พัฒนาอย่างกว้างลึกในทั่วประเทศและได้รับการเปลี่ยนแปลงใหม่ผ่านรูปแบบต่างๆและเนื้อหาที่หลากหลาย เกาะติดหน้าที่ทางการเมืองและสถานการณ์เศรษฐกิจ-สังคมของประเทศ ซึ่งขบวนการแข่งขันต่างๆได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม ค้ำประกันความมั่นคงทางการเมืองและความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม หมู่คณะและบุคคลต่างๆได้รับการสดุดี รูปแบบดีเด่นต่างๆได้รับการขยายผล มีส่วนช่วยส่งเสริมศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ ระดมการเข้าร่วมของประชาชนทุกชั้นชน มีส่วนร่วมต่อผลสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงใหม่ในตลอด 35 ปีที่ผ่านมา

ขบวนการแข่งขัน “ประเทศร่วมกันสร้างสรรค์ชนบทใหม่” ได้มีส่วนร่วมเสร็จสิ้นการปฏิบัติโครงการเป้าหมายแห่งชาติเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ในช่วงปี 2010 –2020 ก่อนกำหนด 2 ปี จนถึงเดือนตุลาคมปี 2020 เวียดนามมีตำบลกว่า 5 พันแห่ง  คิดเป็นร้อยละ 60.3  อำเภอ 162 แห่งคิดเป็นร้อยละ 24.4ของจังหวัดและนครสังกัดส่วนกลาง 46 แห่งที่ได้มาตรฐานชนบทใหม่ โครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจ-สังคมในเขตชนบทได้รับการปรับปรุง

ส่วนขบวนการ “ทั่วประเทศร่วมแรงร่วมใจเพื่อผู้ยากจน-ไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”ได้ช่วยส่งเสริมเกียรติประวัติแห่งความสามัคคีในชุมชน มีส่วนร่วมนำเวียดนามกลายเป็นหนึ่งในประเทศแรกๆที่เสร็จสิ้นการปฏิบัติเป้าหมายแห่งสหัสวรรษของสหประชาชาติเกี่ยวกับการลดปัญหาความยากจนได้ก่อนกำหนด โดยอัตราครอบครัวที่ยากจนลดลงจากร้อยละ 9.2 ในปี 2016 ลงเหลือร้อยละ 3 ในปี 2020 ตามมาตรฐานยากจนหลายมิติ

ขบวนการ “สถานประกอบการเวียดนามผสมผสานและพัฒนา”ได้มีส่วนช่วยปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและการประกอบธุรกิจ การแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการ การวางโครงการและแผนการช่วยเหลือสถานประกอบการสตาร์ทอัพ ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางการค้าและการเปลี่ยนแปลงใหม่เทคโนโลยี ในสภาวการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด –19และเศรษฐกิจโลกตกเข้าสู่ภาวะถดถอยแต่จำนวนสถานประกอบการใหม่ในเวียดนามยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมานับตั้งแต่ปี 2016  จนถึงเดือนตุลาคมปี 2020 เวียดนามมีสถานประกอบการเกือบ 8 แสนแห่งที่กำลังประกอบธุรกิจ เพิ่มขึ้นกว่า 4 หมื่น 1 พันแห่ง  หรือคิดเป็นร้อยละ 5.54 เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมปี 2019 นาย โงแซกถึก รองประธานแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามได้ประเมินว่า

ประเทศเวียดนามที่พัฒนาในปัจจุบันเป็นผลจากความพยายามของทั้งพรรคและประชาชนทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ กรรมกร เกษตรกร สถานประกอบการและปัญญาชนนับล้านคน ในช่วงสงครามกู้ชาติ  การแข่งขันและความสามัคคีได้ช่วยให้พวกเราสามารถช่วงชิงเอกราชมาให้แก่ประเทศ ความสามัคคีและความคิดสร้างสรรค์ก็ช่วยให้ประเทศพัฒนาในปัจจุบัน”

การประชุมใหญ่แข่งขันรักชาติครั้งที่ 10 – นิมิตหมายใหม่ในขบวนการแข่งขันรักชาติ - ảnh 2นาย โงแซกถึก รองประธานแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนาม (Photo: mattranorg.vn) 

ระดมแหล่งพลังที่ยิ่งใหญ่ของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ

การประชุมใหญ่แข่งขันรักชาติครั้งที่ 10 เป็นกิจกรรมทางการเมืองที่สำคัญ เป็นโอกาสเพื่อให้บรรดาผู้แทนแลกเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติที่ดีและรูปแบบใหม่ๆเพื่อส่งเสริมความเป็นมนุษย์และเกียรติประวัติที่ดีงามของประเทศและคนเวียดนามในสังคม โดยเฉพาะ ในสภาวการณ์ใหม่ การประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยส่งเสริมความสามัคคีและความพยายามเพื่อปฏิบัติแนวทางของพรรค นโยบายและกฎหมายของรัฐเป็นอย่างดี  การประชุมเปิดการรณรงค์การแข่งขันในด้านต่างๆและผลักดันการแข่งขัน “ทั่วประเทศร่วมแรงร่วมใจเพื่อผู้ยากจน-ไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง”  “ประเทศร่วมกันสร้างสรรค์ชนบทใหม่”และ “เจ้าหน้าที่พนักงานแข่งขันปฏิบัติวัฒนธรรมในสำนักงาน”ผสานกับการผลักดันการศึกษาและปฏิบัติตามแนวคิด คุณธรรมและบุคลิกของประธานโฮจิมินห์ รองศาสตราจารย์ดอกเตอร์ บุ่ยดิ่งฟอง อาจารย์จากสถาบันการเมืองแห่งชาติโฮจิมินห์ได้เผยว่า

 “การแข่งขันต้องดำเนินไปอย่างมีประชาธิปไตยและเกาะติดสถานการณ์ที่เป็นจริง โดยเฉพาะ ภายใต้การนำของพรรค ต้องส่งเสริมบทบาท สติปัญญาและแหล่งพลังของประชาชน ความสำเร็จต้องขึ้นอยู่กับแหล่งพลังของประชาชนภายใต้การนำของพรรค”

จากผลสำเร็จที่ได้บรรลุในขบวนการแข่งขันในหลายปีที่ผ่านมาและแนวทางที่จะได้รับการอนุมัติในการประชุมใหญ่การแข่งขันรักชาติครั้งที่ 10 ขบวนการแข่งขันจะมีพลังขับเคลื่อนใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ สร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่การปฏิบัติเป้าหมายกพัฒนาประเทศในระยะต่อไป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด