ก้าวกระโดดทั้งด้านความคิดเชิงยุทธศาสตร์และการปฏิบัติเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อให้เวียดนามพัฒนารุดหน้าต่อไป

(VOVWORLD) - เมื่อวันที่ 10 เมษายนปี 2013 กรมการเมืองพรรคฯได้ประกาศมติที่ 22 ของคณะกรรมการกลางพรรคฯเกี่ยวกับการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ซึ่งเป็นนิมิตหมายของเวียดนามในกระบวนการปรับตัวและความร่วมมือกับประเทศต่างๆในทั่วโลก ซึ่งกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในตลอด 10 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า มติดังกล่าวเป็นเข็มทิศนำทางและมีส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของประเทศและนำเวียดนามพัฒนาแบบข้ามขั้นอย่างมีเสถียรภาพ
ก้าวกระโดดทั้งด้านความคิดเชิงยุทธศาสตร์และการปฏิบัติเป็นพลังขับเคลื่อนเพื่อให้เวียดนามพัฒนารุดหน้าต่อไป - ảnh 1มติที่ 22 ของคณะกรรมการกลางพรรคฯได้ระบุถึงแนวทางการผสมผสานในทุกด้านและก้าวพัฒนาใหม่ ซึ่งเป็นแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ของเวียดนาม (dangcongsan.vn)

มติที่ 22 ของคณะกรรมการกลางพรรคฯได้ระบุถึงแนวทางการผสมผสานในทุกด้านและก้าวพัฒนาใหม่ ซึ่งเป็นแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ของเวียดนาม โดยต้องส่งเสริมพลังภายใน ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์และแหล่งพลังจากภายนอกเพื่อสนับสนุนภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ อีกทั้งระบุถึงความสำคัญของแนวทางการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกในเชิงรุกอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะการเข้าร่วมกระบวนการจัดทำมาตรฐานและหลักปฏิบัติต่อกันของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป้าหมายที่เสมอต้นเสมอปลายคือปกป้องผลประโยชน์ของชาติควบคู่กับความร่วมมือระหว่างประเทศ การรักษาบรรยากาศที่เอื้อให้แก่สันติภาพ การพัฒนา การผสานพลังที่เข้มแข็งของประชาชาติกับแนวโน้มของยุคสมัยเพื่อส่งเสริมสถานะของประเทศ

สร้างพื้นฐานให้แก่การพัฒนาของเวียดนามในอีก 10 ปีข้างหน้า

ตามมติที่ 22 ของคณะกรรมการกลางพรรคฯ ในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก ต้องยึดหลักการถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดควบคู่กับการปฏิบัติตามกฎหมายสากล กฎบัตรของสหประชาชาติ ความร่วมมือที่เท่าเทียมกันเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน อีกทั้งระบุว่า ในการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก มีทั้งโอกาสและความท้าทาย ซึ่งต้องพยายามรับมือความท้าทายและใช้ประโยชน์จากโอกาสต่างๆอย่างเต็มที่ในการพัฒนาและปกป้องประเทศ ตลอดจนมีการชี้แนะมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อประสานงานและปฏิบัติกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างมีประสิทธิภาพ

ในการปฏิบัติมติที่ 22 ของคณะกรรมการกลางพรรคฯในตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกได้สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่ให้แก่การพัฒนาประเทศเวียดนามแบบก้าวกระโดดในทุกด้านเมื่อเทียบกับระยะก่อน ในด้านเศรษฐกิจ จีดีพีของเวียดนามเมื่อปี 2013 อยู่ที่ 2 แสน 1 หมื่น 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในปัจจุบันอยู่ที่กว่า 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าการค้าบรรลุกว่า 7 แสน 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ การเปิดกว้างทางเศรษฐกิจสู่ภายนอกบรรลุ 200% ซึ่งนอกจากการพึ่งพาศักยภายภายในและการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศแล้ว การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกมีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการแสวงหาแหล่งพลังจากภายนอก เช่น การค้า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจกับประเทศต่างๆเพื่อพัฒนาประเทศ ส่วนในด้านการเมือง เวียดนามได้รักษาและส่งเสริมบรรยากาศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เอื้อให้แก่สันติภาพ ความร่วมมือ การพัฒนาเพื่อมีส่วนร่วมปฏิบัติยุทธศาสตร์การสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิให้มั่นคง ส่วนในด้านการต่างประเทศ ประเทศต่างๆได้ชื่นชมบทบาทและสถานะของเวียดนามในภูมิภาคและโลก โดยเวียดนามได้ให้ความเคารพและปฏิบัติตามกฎหมายสากลและกฎบัตรของสหประชาชาติเพื่อมีส่วนร่วมต่อกิจกรรมของประชาคมโลกและเอื้อประโยชน์ต่อเวียดนาม ขยายความสัมพันธ์กับทุกประเทศ องค์กรระหว่างประเทศ โดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศมหาอำนาจและประเทศคู่สนทนาที่สำคัญ รวมถึงอาเซียน ฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปกและสหประชาชาติ ปัจจุบัน เวียดนามได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์หุ้นส่วนในทุกด้านกับ 30 ประเทศและดินแดน เข้าร่วมอย่างกว้างลึกในระบบห่วงโซ่อุปทาน ระบบคุณค่าโลก ข้อตกลงการค้าเสรีฉบับใหม่ เช่น ข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก หรือ CPTPP ข้อตกลงการค้าเสรีสหภาพยุโรป-เวียดนาม หรือ  EVFTA ข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านในภูมิภาคหรือ RCEP เป็นต้น ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้แก่การพัฒนาและความมั่นคงของประเทศ สร้างกรอบความสัมพันธ์และความร่วมมือมิตรภาพอย่างมีเสถียรภาพ มีประสิทธิภาพ ยั่งยืนและผสานผลประโยชน์กับประเทศต่างๆ องค์กรระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนภารกิจการพัฒนาและปกป้องปิตุภูมิ การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกยังช่วยให้เวียดนามขยายและส่งเสริมบทบทในกลไกพหุภาคีต่างๆ เช่น การเป็นประธานอาเซียนปี 2020 สมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติสมัยที่ 2 วาระปี 2020-2021 ประธานเอเปกปี 2017  และสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวาระปี 2023-2025

พลังขับเคลื่อนเพื่อให้เวียดนามพัฒนารุดหน้าต่อไป

ในการปฏิบัติมติที่ 22 คณะกรรมการกลางพรรคฯในตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้แสดงให้เห็นถึงการเป็นฝ่ายรุกอย่างเข้มแข็งในการส่งเสริมบทบาท สถานะและมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดทำมาตรฐานและหลักปฏิบัติต่อกันของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มีก้าวพัฒนาที่สำคัญในการเข้าร่วมกิจกรรมระดับโลกและกิจกรรมพหุภาคีที่ครอบคลุมในทุกด้าน ไม่ว่าจะในประเด็นสันติภาพ การพัฒนา ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ สิ่งแวดล้อม โดยได้ให้คำมั่นที่เข้มแข็งเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก ส่วนการเป็นประธานอาเซียน สมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ การเข้าร่วมกิจกรรมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติและประธานเอเปกของเวียดนามได้รับการชื่นชมจากประชาคมโลก ซึ่งแน่นอนว่า ผลการปฏิบัติมติที่ 22 และการพัฒนาประเทศในตลอด 10ปีที่ผ่านมาจะสร้างพลังเคลื่อนใหม่ให้แก่การผสมผสานเข้ากับกระแสโลกและการต่างประเทศของเวียดนามในระยะต่อไปบนเจตนารมณ์ของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯสมัยที่ 13 คือการต่างประเทศต้องเดินหน้าในการแสวงหาแหล่งพลังสำหรับการพัฒนาประเทศ สร้างความสัมพันธ์มิตรภาพในภูมิภาคและโลกเพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้แก่สันติภาพ การพัฒนาและการยกระดับสถานะของเวียดนามบนเวทีโลก.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด