ความพยายามทางการทูตเพื่อเปิดทางสู่การเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน

(VOVWORLD) - เมื่อวันที่ 10 มีนาคม การเจรจาระดับรัฐมนตรีต่างประเทศระหว่างรัสเซียกับยูเครนไม่สามารถบรรลุความคืบหน้าเกี่ยวกับคำสั่งหยุดยิง แต่รัสเซียจะเปิดช่องทางช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพื่อให้ชาวยูเครนใน 5 เมืองอพยพออกจากพื้นที่ ขณะนี้ ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินเกี่ยวกับโอกาสในการยุติสงครามในยูเครน แต่ที่ชัดเจนก็คือ การทั้งสองฝ่ายได้จัดการเจรจากันมาแล้ว 3 ครั้งภายในเวลากว่า 10 วันบวกกับความพยายามทางการทูตจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้แสดงให้เห็นว่า โอกาสเจรจาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งอย่างสันติยังคงเปิดอยู่ ถึงแม้ว่าจะยังมีอุปสรรคนานัปการรออยู่ข้างหน้าอีกมากก็ตาม
ความพยายามทางการทูตเพื่อเปิดทางสู่การเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน - ảnh 1รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเเซีย ยูเครนและตุรกีในการเจรจา ณ ประเทศตุรกีเมื่อวันที่ 10 มีนาคม (AFP)

 

นี่คือการพบปะครั้งแรกระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายนับตั้งแต่รัสเซียเปิดยุทธนาการทางทหารพิเศษในยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ทั้งสองฝ่ายได้หารือในเนื้อหาสำคัญๆ เช่น ช่องทางการช่วเหลือด้านมนุษยธรรม คำสั่งหยุดยิง ความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์และจุดยืนที่เป็นกลางของยูเครน แต่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถเห็นพ้องกันในทุกประเด็นยกเว้นเรื่องที่รัสเซียยืนยันการเปิดช่องทางด้านมนุษยธรรมเพื่อให้ชาวยูเครนอพยพออกจากเมือง 5 แห่งและจะยังคงเดินหน้าจัดการพบปะต่อไปเพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขสถานการณ์ในปัจจุบัน

ยังไม่บรรลุผลงานที่เป็นรูปธรรมถึงแม้จะมีความปรารถนาดี

ในช่วงกว่า 10 วันที่ผ่านมา ทางการมอสโคว์และเคียฟได้จัดการเจรจา 3 รอบ แต่ตามการประเมินของทั้งสองฝ่าย การเจรจามีความคืบหน้าน้อยมาก ส่วนเนื้อหาหลักในการเจรจารอบที่ 3 ระหว่างตัวแทนของรัสเซียและยูเครน ที่ประเทศตุรกีก็ได้รับการจับตามองเป็นอย่างมากจากประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องช่องทางเพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

แม้ประชาคมระหว่างประเทศได้ชื่นชมรัสเซียและยูเครนตกลงหันมาใช้การเจรจาเพื่อแก้ปัญหาเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ แต่หลายฝ่ายก็ไม่ได้ตั้งความหวังมากนักที่จะเห็นการยุติการปะทะ

ในทางเป็นจริง การเจรจาที่ผ่านมาทั้ง 3 รอบ ได้แสดงให้เห็นถึงก้าวเดินที่ระมัดระวังของทั้งสองฝ่ายเนื่องจากยังไม่สามารถประณีประนอมกันได้ โดยรัสเซียเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ "ปัญหาทางการเมือง การวางอาวุธและสถานะที่เป็นกลางของยูเครน ในขณะที่ฝ่ายยูเครนกล่าวว่า ทางการเคียฟและมอสโคว์สามารถบรรลุข้อตกลงในทุกประเด็น "ยกเว้นสถานะของเขตไครเมียและดอนบาส" ซึ่งหมายความว่า ยูเครนจะไม่รับรองสถานะของภูมิภาคเหล่านี้ตามข้อเสนอของรัสเซีย ตามความเห็นของบรรดาผู้สังเกตการณ์ ผลการเจรจาเหล่านี้ยังไม่มีอะไรแน่นอน เพราะแม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะมีความประสงค์ดีที่จะหลุดพ้นจากวิกฤต แต่ก็ยังคงยืนกรานจุดยืนของตน

ความพยายามทางการทูตเพื่อเปิดทางสู่การเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน - ảnh 2คณะเจรจาของรัสเซียและยูเครนในการเจรจารอบที่ 3 ณ ประเทศเบลารุสเมื่อวันที่ 7 มีนาคม (THX)

ความพยายามทางการทูตยังคงได้รับการผลักดันต่อไป

ในสภาวการณ์ที่ความสูญเสียจากสงครามและผลกระทบจากการใช้มาตรการคว่ำบาตร - การตอบโต้กันไปมาระหว่างรัสเซียกับฝ่ายตะวันตกนับวันเพิ่มมากขึ้น ความพยายามเพื่อแก้ไขสถานการณ์ผ่านมาตรการทางการทูตกำลังได้รับการผลักดันจากทุกฝ่ายโดยฝรั่งเศสและเยอรมนียังคงแสดงให้เห็นถึงบทบาทเป็นผู้นำ โดยในเกือบ 2 สัปดาห์ที่เกิดการปะทะ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนาย วลาดีเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียถึง 4 ครั้ง ในขณะเดียวกัน นาย โอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีก็พยายามสื่อสารกับผู้นำรัสเซีย ซึ่งทั้งผู้นำของฝรั้งเศสและเยอรมนีได้ยืนยันหลายครั้งว่า ฝ่ายตะวันตกต้องธำรงการเจรจากับรัสเซียและแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงของมอสโคว์ซึ่งเป็นเหตุผลหลักของความขัดแย้งในปัจจุบัน ส่วนประเทศอื่นๆ เช่น อิสราเอล ตุรกีและอินโดนีเซีย ต่างก็แสดงความปรารถนาที่จะเป็นคนกลางเพื่อแก้ไขความขัดแย้งระหว่างมอสโคว์กับเคียฟ ในสัปดาห์นี้ รัฐมนตรีต่างประเทศสาธารณรัฐเกาหลี Chung Eui-yong และรัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโก อินโดนีเซีย ตุรกีและออสเตรเลีย หรือกลุ่ม MIKTA ยังได้เข้าร่วมการประชุมออนไลน์เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน ตลอดจนความพยายามของกลุ่มเพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขอย่างสันติในขณะที่ทางสหประชาชาติก็ได้จัดการประชุมและการพบปะหลายครั้ง รวมทั้งหัวหน้าคณะผู้แทนถาวรของประเทศต่างๆในสหประชาชาติ โดยเฉพาะรัสเซียและยูเครน เพื่อแสวงหามาตรการแก้ไขวิกฤตยูเครน

ความสูญเสียจากสงครามที่เพิ่มขึ้นและบานปลายเป็นวงกว้างทำให้ต้องหามาตรการสันติอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ไข ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อความพยายามทางการทูต และการบรรลุคำสั่งหยุดยิงโดยเร็ว แต่การเคลื่อนไหวใหม่ได้แสดงให้เห็นว่า ประตูสู่สันติภาพยังไม่ปิดลง ถึงแม้รัสเซียและยูเครนจะยอมนั่งโต๊ะเจรจาและไม่สามารถบรรลุความเห็นพ้องใดๆได้ก็ตาม ดังนั้น ประชาคมระหว่างประเทศจึงหวังว่า ความพยายามสนทนาจะได้รับการส่งเสริมมากขึ้นต่อไปเพื่อมีมาตรการสันติสำหรับแก้ปัญหาความขัดแย้งรัสเซีย ยูเครน เพื่อประโยชน์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเพื่อสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพและการพัฒนาของโลก.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด