(VOVWORLD) - เวียดนามกำลังให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการรักษาความปลอดภัยด้านชีวิต ทรัพย์สินและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของพลเมืองและสถานประกอบการเวียดนามในยูเครน ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การช่วยเหลือต่างๆได้รับการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและมีประสิทธิภาพ รวมถึงเที่ยวบินที่พาพลเมืองกลับเวียดนาม
ความสุขของครอบครัวชาวเวียดนามเมื่อเดินทางกลับประเทศ (VNA) |
สถานการณ์การปะทะทางทหารในยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ยังคงมีความซับซ้อนและเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยด้านชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและสถานประกอบการ รวมถึงชาวเวียดนามประมาณ 7,000 คนที่กำลังอาศัยในยูเครน จากสถานการณ์ดังกล่าว พรรค รัฐและรัฐบาลเวียดนามได้ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการรักษาความปลอดภัยด้านชีวิต ทรัพย์สินและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของพลเมืองและสถานประกอบการเวียดนามในยูเครนในระดับสูงสุด
เข้าร่วมการแก้ปัญหาอย่างเคร่งครัด
หลังจากรัสเซียเปิดยุทธนาการทางทหารพิเศษในยูเครน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้สั่งให้จัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ยูเครน มอบหมายให้กระทรวงและสำนักงานต่างๆดำเนินการอพยพพลเมืองเวียดนามออกจากพื้นที่อันตรายไปยังประเทศใกล้เคียงและจัดทำแผนอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่ต้องการกลับประเทศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ามกวางเหียว กล่าวว่า
“กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานกับกระทรวงและสำนักงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด สั่งให้สำนักงานตัวแทนของเวียดนามในยูเครนและประเทศใกล้เคียง เช่น โปแลนด์ โรมาเนีย ฮังการีและสโลวาเกีย ประสานงานกับสมาคมต่างๆเพื่อเร่งอพยพชาวเวียดนามออกจากเขตสงคราม เราได้จัดทำแผนการรับชาวเวียดนามในพื้นที่ชายแดน นับตั้งแต่เกิดสงคราม เอกอัครราชทูตเวียดนามในประเทศอื่น ๆ ได้จัดทำแผนการร่วมกับสมาคมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือชาวเวียดนาม ไม่ให้ใครประสบภัยหนาวและขาดแคลนอาหาร”
จนถึงขณะนี้ ชาวเวียดนามกว่า 2,000 คนได้รับการอพยพออกจากเขตสงครามในยูเครน ไปยังประเทศใกล้เคียง และมีชาวเวียดนาม 553 คนได้กลับถึงเวียดนามแล้ว โดยมากับเที่ยวบินอพยพเที่ยวแรกเมื่อวันที่ 8 มีนาคม รวม 287 คน และเด็ก 71 คน จากกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย จากความสามัคคี ความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์และพลังทุกแหล่ง การอพยพประชาชนได้มีขึ้นอย่างเป็นระเบียบและปลอดภัย นาง เหงียนถิแอ๊นในจังหวัดเหงะอาน หนึ่งในพลเมืองกลุ่มแรกๆ ที่กลับประเทศได้กล่าวว่า
“ดิฉันรู้สึกตื้นตันใจและดีใจมากที่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐให้กลับประเทศ โดยเฉพาะชุมชนชาวเวียดนามในต่างประเทศได้ช่วยเหลือเราในด้านอาหาร และการเดินทาง ชาวเวียดนามไปทุกที่ก็รู้สึกถึงความสามัคคี ให้ความช่วยเหลือจุนเจือกันในช่วงที่ประสบความยากลำบาก สถานทูตเวียดนามอำนวยความสะดวกต่างๆให้แก่เรา ขอขอบคุณรัฐบาลเวียดนามเป็นอย่างมาก”
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ามกวางเหียว ให้การต้อนรับชาวเวียดนามจากยูเครนกลับประเทศ (VNA) |
ส่งเสริมเกียรติประวัติแห่งการช่วยเหลือจุนเจือกัน
วันที่ 10 มีนาคม เที่ยวบินอพยพจากกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์จะมาถึงสนามบินโหน่ยบ่ายพร้อมพลเมืองเวียดนามอีก 270 คน และเตรียมพาอีกหลายร้อยคนกลับประเทศในเที่ยวบินต่อๆไป ปัจจุบัน โปแลนด์เป็นสถานที่รับชาวเวียดนามที่อพยพออกจากยูเครนมากที่สุดและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน ตั้งแต่แรกเริ่ม สถานทูตเวียดนามประจำโปแลนด์ได้เป็นฝ่ายรุกในการจัดตั้งทีมให้การช่วยเหลือชาวเวียดนามและมีการเปิดโทรศัทพ์สายด่วน 24 ชั่วโมง นาย เหงียนหุ่ง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำโปแลนด์ ยืนยันว่า
“ทางสถานทูตฯได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสมาคมชาวเวียดนามเพื่อจัดตั้งกลุ่มให้การช่วยเหลือชาวเวียดนามตามข้อกำหนดของโปแลนด์ จัดตั้งกลุ่มให้การช่วยเหลือด้านที่พัก และกลุ่มที่สามทำหน้าที่ประสานงานกับสมาคมชาวเวียดนามและสำนักงานที่เกี่ยวข้องของเวียดนามในยูเครนเพื่อเกาะติดความต้องการของชาวเวียดนามและสิ่งที่ต้องให้การช่วยเหลือ”
ขณะนี้ สายการบินของเวียดนามพร้อมบินไปยังสนามบิน 6 แห่งในยุโรปเพื่อพาพลเมืองเวียดนามกลับประเทศอย่างปลอดภัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ามกวางเหียว ยืนยันว่า
“เราคาดว่าสถานการณ์การต่อสู้จะยังคงดำเนินต่อไป เรายังคงให้การช่วยเหลือพลเมืองเวียดนาม และทราบถึงความต้องการของพวกเขาเพื่อสามารถให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที เราจะประสานงานกับกระทรวงและสำนักงานต่างๆเพื่อเสนอให้รัฐบาลและคณะทำงานจัดเที่ยวบินเพิ่มเติมเพื่ออพยพพลเมืองกลับประเทศ”
อาจกล่าวได้ว่า ในยามทุกข์ยากลำบาก เกียรติประวัติแห่งความสามัคคีของประชาชาติ จิตใจแห่งการพึ่งพาตนเอง การช่วยเหลือจุนเจือกันยิ่งได้รับการส่งเสริมอย่างเข้มแข็งมากขึ้น การค้ำประกันความมั่นคง ความปลอดภัยด้านชีวิต ทรัพย์สินและผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของพลเมืองเวียดนามในยูเครนเป็นจิตใจแห่งมนุษยธรรมและความรับผิดชอบที่เร่งด่วนในปัจจุบัน.