ความสัมพันธ์ เวียดนาม-รัสเซีย หุ้นส่วนที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ

(VOVworld)- เช้าวันที่ 31กรกฎาคม ตามเวลาฮานอย ท่านเจืองเตินซาง ประธานประเทศพร้อมคณะผู้แทนเวียดนามได้กลับถึงกรุงฮานอย เสร็จสิ้นการเยือนสหพันธรัฐรัสเซีย อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 26-30กรกฎาคม จากผลงานที่บรรลุในโอกาสนี้ได้สร้างนิมิตหมายและพลังขับเคลื่อนสำคัญเพื่อแปรความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเวียดนาม-รัสเซียให้เป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง.

(VOVworld)- เช้าวันที่ 31กรกฎาคม ตามเวลาฮานอย ท่านเจืองเตินซาง ประธานประเทศพร้อมคณะผู้แทนเวียดนามได้กลับถึงกรุงฮานอย เสร็จสิ้นการเยือนสหพันธรัฐรัสเซีย อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 26-30กรกฎาคม จากผลงานที่บรรลุในโอกาสนี้ได้สร้างนิมิตหมายและพลังขับเคลื่อนสำคัญเพื่อแปรความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านเวียดนาม-รัสเซียให้เป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง.
ความสัมพันธ์ เวียดนาม-รัสเซีย หุ้นส่วนที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ   - ảnh 1
นับเป็นครั้งแรกที่ประธานเจือนเตินซางและประธานาธิบดีปูตินได้พบปะกันในฐานะผู้นำสูงสุดของประเทศ (VNA)

อาจกล่าวได้ว่า จากแนวทางความร่วมมือในหลายทศวรรษที่ผ่านมา ความสัมพันธ์เวียดนาม-รัสเซียได้พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งตามแนวทางเป็นหุ้นส่วนที่มั่นคงและน่าไว้วางใจกัน โดยสถานการณ์ของภูมิภาคและระหว่างประเทศได้เอื้อให้ทั้งสองฝ่ายสร้างเงื่อนไขใหม่แก่การสร้างก้าวพัฒนาความร่วมมือในทุกด้าน ดังนั้นการเยือนรัสเซียครั้งนี้ของประธานเจืองเตินซางถือว่ามีความหมายสำคัญเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสร้างกรอบการพัฒนาใหม่เพื่อนำความสัมพันธ์เวียดนาม-รัสเซียขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ โดยเป็นครั้งแรกที่การเจรจาระดับสูงของผู้นำสองประเทศได้จัดขึ้น ณ บ้านพักของประธานาธิบดีปูตินที่เมืองตากอากาศโซชิ ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์พิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อนและได้แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจเป็นพิเศษและความสนิทชิดเชื้อของประธานาธิบดีรัสเซียต่อประธานประเทศเวียดนาม สอดคล้องกับกฤษฏีกาเกี่ยวกับนโยบายด้านการต่างประเทศในวาระใหม่ของประธานาธิบดีรัสเซียปูตินที่จัดเวียดนามอยู่ในกลุ่มประเทศหุ้นส่วนสำคัญเสมออินเดียและรองจากจีนในเอเซีย-แปซีฟิก  ซึ่งนายปูตินก็ได้ยืนยันถึงสิ่งนี้หลังการเจรจากับประธานประเทศเวียดนามและได้รับการเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆของรัสเซียในตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า   ความสัมพันธ์รัสเซีย-เวียดนามมีรากฐานที่ลึกซึ้งมาช้านาน โดยประชาชนทั้งสองประเทศก็มีสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกันและสิ่งนี้ได้ช่วยให้พวกเราพัฒนาความสัมพันธ์นั้นอย่างดีงามมาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้พัฒนาในทุกด้าน มูลค่าการการค้าทวิภาคีปี2011คิดเป็นกว่า3พันล้านเหรียญสหรัฐ และพวกเรายังมีโครงการร่วมมือใหญ่ๆที่ มีความหมายให้แก่ทั้งสองฝ่าย

โดยตระหนักว่าความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจการค้าเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญที่สุดในความสัมพันธ์ร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนาม-รัสเซีย ในการกล่าวปราศรัยต่อผู้ประกอบการเวียดนาม-รัสเซียหลายร้อยคน ณ ฟอรั่มสถานประกอบการระหว่างสองประเทศ ประธานเจืองเตินซางได้กล่าวย้ำถึงการที่ผู้ประกอบการสองประเทศควรมีมาตรการแบบก้าวกระโดดเพื่อนำความสัมพันธ์ดทางเศรษฐกิจการค้าพัฒนาทัดเทียมกับความสัมพันธ์ทางการเมืองอันดีงามและศักยภาพของแต่ละฝ่าย โดยประธานเจืองเตินซางได้ยืนยันว่า ตลาดเวียดนามจะเปิดกว้างเพื่อต้อนรับนักลงทุนรัสเซียเสมอ        รัฐบาลเวียดนามให้ความสำคัญ ส่งเสริมและอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนรัสเซียในการให้ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า ปีโตรเลี่ยม พลังงาน ทำเหมือง วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การศึกษาฝึกอบรม การท่องเที่ยวและแรงงาน เป็นต้น เวียดนามจะอำนวยเงื่อนไขที่สะดวกอย่างเต็มที่เพื่อให้กลุ่มบริษัทต่างๆของรัสเซียเลือกและถือเวียดนามเป็นจุดนัดพบแห่งยุทธศาสตร์เพื่อขยายความร่วมมือกับสถานประกอบการเวียดนามและอาเซียน พร้อมกับแถลงการณ์ร่วมเวียดนาม-รัสเซีย โอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายยังได้ลงนามเอกสารสำคัญ7ฉบับอันเป็นการแสดงถึงความเชื่อถือพิเศษทางการเมืองระหว่างสองประเทศ ช่วยสร้างความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในแนวทางใหญ่ๆและเป้าหมายที่วางไว้ในแต่ละด้านเพื่อส่งเสริมการพัฒนาพื้นฐานความสัมพันธ์ในระยะใหม่  นั่นคือความตั้งใจในการยกระดับมูลค่าการค้าต่างตอบแทนเป็น5พันล้านเหรียญสหรัฐในปี2015 คำมั่นในความร่วมมือก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกในเวียดนาม ศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านนิวเคลียร์ที่คาดว่าจะกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ ความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์ต่อกันในศตสรรษที่21 ตลอกจนการจัดตั้งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเวียดนาม-รัสเซีย ณ กรุงฮานอย  ซึ่งรัสเซียได้ให้คำมั่นในการให้ความสนใจฝึกอบรมด้านการป้องกันประเทศแก่เวียดนามโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ทหารเวียดนามเพื่อที่จะสามารถประยุกต์ใช้อุปกรณ์เทคโยโลยีด้านการทหารของรัสเซียในเวียดนาม ตลอดจนได้ยืนยันถึงการขยายความร่วมมือในการสำรวจและขุดเจาะปีโตรเลี่ยมในเขตไหล่ทวีปเวียดนามที่สอดคล้องกับกฎหมายสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเลปี1982

ในปัญหาระหว่างประเทศ เวียดนามและรัสเซียต่างมีทัศนะร่วมกันในหลายปัญหา ผู้นำทั้งสองประเทศให้การสนับสนุนการสร้างโครงสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงใหม่ในเอเซีย-แปซีฟิกที่เปิดเผยและเสมอภาค บนพื้นฐานหลักการณ์ต่างๆของกฎหมายสากลและสิทธิที่ชอบด้วยกฎหมายของทุกฝ่าย  โดยทั้งรัสเซียและเวียดนามต่างกล่าวว่า การพิพาททางดินแดนและการพิพาทอื่นๆในภูมิภาคนี้ควรได้รับการแก้ไขอย่างสันติ ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้ความรุนแรงตามที่ระบุในกฎหมายสากล กฎบัติสหประชาชาติและอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเลปี1982 ให้การสนับสนุนการปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการปฏิบัติของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีและมุ่งร่างระเบียบการปฏิบัติต่อกันในทะเลตะวันออกหรือซีโอซี

การเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการครั้งนี้ของประธานประเทศเวียดนามเจือนเตินซางถือเป็นกิจกรรมการเเลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงทวิภาคีตามธรรมเนียม แต่นับเป็นครั้งแรกที่ประธานเจือนเตินซางและประธานาธิบดีปูตินได้พบปะกันในฐานะผู้นำสูงสุดของประเทศ ซึ่งสิ่งนี้ได้สร้างความหมายด้านการเมืองที่โดดเด่นในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในระยะใหม่ และจากผลสำเร็จที่ประสบนั้นจะเอื้อให้ความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างเวียดนาม-รัสเซียพัฒนาขยายผลเข้าสู่ส่วนลึกและยั่งยืนยิ่งขึ้น./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด