ประธานประเทศเวียดนามเจิ่นด่ายกวาง

ในสัปดาห์ผู้นำเอเปกได้มีการจัดกิจกรรมสำคัญๆ โดยมีผู้นำ 21 เศรษฐกิจสมาชิก ผู้แทนกว่า 1 หมื่นคนและนักข่าวทั้งภายในและต่างประเทศกว่า 2 พันคนเข้าร่วม

จากความพยายามของประเทศเจ้าภาพเวียดนามและเศรษฐกิจสมาชิกอื่นๆ เอกสารที่ได้รับการอนุมัติในสัปดาห์ผู้นำเอเปกครั้งนี้ล้วนส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการเมืองของโลก

นิมิตรหมายที่โดดเด่น

หนึ่งในจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของสัปดาห์ผู้นำเอเปกและปีเอเปก 2017 คือการออกแถลงการณ์ดานังรวม 39 ข้อที่ยืนยันความตั้งใจในการผลักดันการเปิดเสรีการค้าและการลงทุน การขยายตัวอย่างครอบคลุมและยั่งยืน พร้อมทั้งพยายามธำรงความร่วมมือและการเชื่อมโยงภายในเอเปกในสภาวการณ์ที่สถานการณ์โลกและภูมิภาคมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับการเสร็จสิ้นการประชุมผู้นำเอเปก 2017 ประธานประเทศเจิ่นด่ายกวางได้เผยว่า “การปฏิบัติกรอบความร่วมมือในระยะยาวของเอเปกจะมีส่วนร่วมเสริมสร้างบทบาทของฟอรั่ม ที่เป็นกลไกความร่วมมือทางเศรษฐกิจชั้นนำและเดินหน้าของภูมิภาคด้วยความพยายามของทุกประเทศเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป้าหมายสหัสวรรษที่ต้องบรรลุในปี 2030 ของสหประชาชาติ”

ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งคือการประชุมสุดยอดสถานประกอบการเอเปกหรือ CEO Summit รวม 15 รอบที่ได้เสนอแนวคิดและคำมั่นใหม่สำหรับการขยายตัว ซึ่งน่าสนใจที่สุดคือ นับเป็นครั้งแรกที่ในการประชุม CEO Summit มีประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานประเทศจีน สีจิ้นผิง เข้าร่วม

นายฝ่ามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม

ในเอกสารที่ได้รับการอนุมัติในที่ประชุม เนื้อหาของ 4 กลุ่มประเด็นที่ให้ความสนใจร่วมมืออันดับแรกพร้อมหัวข้อที่เวียดนามได้เสนอนั้นล้วนถูกระบุในแถลงการณ์ผู้นำเอเปก 2017 นายฝ่ามบิ่งมิงห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้ประเมินว่า  “ในฐานะประเทศเจ้าภาพ เวียดนามได้ประสบความสำเร็จในการทำให้เศรษฐกิจสมาชิกอื่นๆให้ความสนใจด้วยหัวข้อ “สร้างพลังขับเคลื่อนใหม่เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีงาม” พร้อม 4 ประเด็นที่ต้องให้ความสนใจก่อนในการปฏิบัติซึ่งต่างได้รับการสนับสนุนจากผู้นำเศรษฐกิจอื่นๆ อันเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า เวียดนามสามารถเลือกปัญหา เลือกประเด็นที่ถูกต้องตามความสนใจร่วม นั่นคือการขยายตัวอย่างยั่งยืน มีความคิดสร้างสรรค์และครอบคลุม ผลักดันความเชื่อมโยงเศรษฐกิจในภูมิภาคอย่างกว้างลึก เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและความคิดสร้างสรรค์ของสถานประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อมและขนาดจิ๋ว ส่งเสริมความมั่นคงด้านอาหารและการเกษตรอย่างยั่งยืนเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ”

จากความคิดริเริ่มของเวียดนาม นับเป็นครั้งแรกในกรอบสัปดาห์ผู้นำเอเปกได้มีการจัดการสนทนาอย่างไม่เป็นทางการของผู้นำเอเปกกับอาเซียน และเป็นครั้งแรกที่เวียดนามจัดฟอรั่มสถานประกอบการเวียดนามที่ได้ส่งผลดีต่อบรรยากาศการลงทุนภายในประเทศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝ่ามบิ่งมิงห์กล่าวว่า “ผลสำเร็จของเวียดนามคือยืนยันบทบาทและสถานะของเวียดนามในภูมิภาคและการขยายความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับหุ้นส่วนใหญ่ๆ ในด้านเศรษฐกิจ เวียดนามมีข้อตกลง 121 ฉบับ มูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้เปิดโอกาสใหม่ให้แก่สถานประกอบการ”

นาย James W. Fatheree รองประธานหอการค้าภาคพื้นเอเชียของสหรัฐ

ส่วนนาย James W. Fatheree รองประธานหอการค้าภาคพื้นเอเชียของสหรัฐประเมินว่า “ทุกคนต่างพอใจกับการจัดงานของเวียดนาม ซึ่งสะท้อนทักษะความสามารถของเศรษฐกิจที่คล่องตัว ดังที่ผมเคยพูดไปแล้ว เวียดนามกำลังพัฒนาถูกทิศทางในหลายปีมานี้ การเป็นเจ้าภาพจัดปีเอเปกได้ช่วยให้เวียดนามมีโอกาสพัฒนามากขึ้นและบทบาทเดินหน้า หวังว่า จากความพยายามและคำมั่นต่างๆ เวียดนามจะมีส่วนร่วมมากขึ้นในการแก้ไขความท้าทายใหม่ๆในปี 2017”

ขยายความสัมพันธ์ทวิภาคี

ในกรอบสัปดาห์ผู้นำเอเปก  ผู้นำเวียดนามได้มีการพบปะหารือกับผู้นำเศรษฐกิจและหัวหน้ากลุ่มบริษัทชั้นนำของโลก ซึ่งน่าสนใจคือ ผู้นำเศรษฐกิจและหัวหน้ากลุ่มบริษัททุกคนต่างๆชื่นชมสถานะที่นับวันสูงเด่นบนเวทีภูมิภาคและโลกของเวียดนาม พร้อมทั้งมีความประสงค์ขยายความสัมพันธ์กับเวียดนามและชื่นชมความคืบหน้าของเศรษฐกิจเวียดนามและความพยายามของเวียดนามในการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและการประกอบธุรกิจเช่นเดียวกับคำมั่นของเวียดนามต่อเอเปกและประชาคมโลก รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ฝ่ามบิ่งมิงห์ได้ให้ข้อสังเกตว่า ในกรอบสัปดาห์ผู้นำเอเปก ได้มีการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการของผู้นำ 4 ประเทศและการพบปะหารือทวิภาคี 50 ครั้ง  ซึ่งถือเป็นพื้นฐานเพื่อขยายความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับประเทศต่างๆที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาค

ปีเอเปกเวียดนาม 2017 ได้ประสบความสำเร็จ จากความพยายามของประเทศเจ้าภาพเวียดนามและเศรษฐกิจสมาชิก เอเปกจะปฏิบัติเป้าหมายเปิดเสรีการค้า อำนวยความสะดวกให้แก่การลงทุนและการขยายตัวในภูมิภาคต่อไป.