เมื่อวันที่ 2 กันยายนปี 1945 ประธานโฮจิมินห์ได้อ่านปฏิญญาเอกราช อันเป็นการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม

เช้าวันนี้ ที่บริเวณลานสนามหญ้าในจัตุรัสบาดิ่ง กรุงฮานอยมีความสวยงามมากเป็นพิเศษ พิธีเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาวันนี้ก็มีความศักดิ์สิทธิ์กว่าปกติ โดยภาพธงชาติโบกสะบัดตามสายลมยามรุ่งอรุณ ผู้ที่เข้าเคารพศพประธานโฮจิมินห์รู้สึกซาบซึ้งตรึงใจและหวนคิดถึงวินาทีที่ประธานโฮจิมินห์ได้อ่านปฏิญญาเอกราชเมื่อวันที่ 2 กันยายนปี 1945 อันเป็นการสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามที่มีเอกราช

การปฏิวัติเดือนสิงหาคมปี 1945ได้สร้างหัวเลี้ยวหัวต่อครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของประชาชาติเวียดนาม โดยได้ช่วยให้ประชาชนเวียดนามหลุดพ้นจากการถูกกดขี่ขูดรีดและการเป็นทาส โค่นล้มระบอบศักดินาและสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ความสำเร็จของการปฏิวัติเดือนสิงหาคมถือเป็นก้าวพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของการปฏิวัติเวียดนาม อันเป็นการเปิดศักราชใหม่ให้แก่ประชาชาติเวียดนาม ซึ่งเป็นศักราชแห่งเอกราช เสรีภาพ การปลดปล่อยประชาชาติควบคู่กับการปลดปล่อยมนุษย์ โดยสนับสนุนประชาชนและผู้ใช้แรงงานให้มีอำนาจ เป็นคนตัดสินใจอนาคตของประเทศและเปิดโอกาสให้เวียดนามพัฒนาทัดเทียมกับประเทศอื่นๆในโลก

ในประวัติศาสตร์ตลอด 74ปีที่ผ่านมา เวียดนามได้สร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ โดยหลังจากได้รับชัยชนะในสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสและจักรวรรดินิยมอเมริกาและการปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศในตลอดกว่า 30ปี ประเทศเวียดนามได้ประสบผลงานที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายทางประวัติศาสตร์ในทุกด้าน ไม่ว่าจะในด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม สังคม ความมั่นคง กลาโหม งานด้านการต่างประเทศ การสร้างสรรค์องค์กรพรรคและรัฐที่บริหารประเทศด้วยอำนาจกฎหมายสังคมนิยม ระบบการเมืองและกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติได้รับการปรับปรุงและขยาย สถานการณ์การเมืองและสังคมมีเสถียรภาพ ความมั่นคงและการป้องกันประเทศได้รับการรักษา ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้รับการยกระดับให้ดีขึ้น ประชาธิปไตยและวัฒนธรรมสังคมได้รับการพัฒนา จากที่เคยเป็นประเทศที่ไม่มีชื่อบนแผนที่โลก ในปัจจุบัน  เวียดนามได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับกว่า 180 ประเทศในทุกทวีป เข้าร่วมองค์กรและสถาบันทั้งในระดับภูมิภาคและโลกเกือบทุกองค์กร  เป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของประชาคมโลกด้วยสถานะและชื่อเสียงที่นับวันได้รับการยกระดับให้สูงขึ้น นอกจากนี้เวียดนามได้หลุดพ้นจากการเป็นประเทศด้อยพัฒนากลายเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีรายได้ปานกลาง ผสมผสามเข้ากับกระแสเศรษฐกิจในภูมิภาคและโลกอย่างกว้างลึกและเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติในหลายปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศได้สร้างโฉมหน้าใหม่ในทั่วประเทศเวียดนาม โดยหมู่บ้านที่เคยประสบความลำบากจากแอกปกครองของนักล่าเมืองขึ้นและระบอบศักดินาได้ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติตามแนวทางและนโยบายของพรรคและรัฐเวียดนาม โดยตั้งแต่แหลมก่าเมาไปจนถึงแหลมซาหวีในเเขวงจ่าโก๋ เมืองม๊องก๊าย ตั้งแต่เขตชายแดนทางบกไปจนถึงเขตทะเลและเกาะแก่งสามารถมองเห็นถึงการพัฒนาตามยุคสมัย โดยเฉพาะภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศในตลอด 34ปีที่ผ่านมาเป็นการสานต่อเกียรติประวัติที่รุ่งโรจ์ของการปฏิวัติเวียดนาม

ในช่วงนี้ ในทั่วประเทศเวียดนาม ท่ามกลางกิจกรรมการร้องเพลงและการฉายภาพยนตร์สารคดีต่างๆ ยังมีการจัดกิจกรรมรำลึกครบรอบ 74ปีการปฏิวัติเดือนสิงหาคมและวันชาติเวียดนาม 2กันยายน     โดยบรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของจันลูกหอม ส้มโอและผลไม้ชนิดต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์และการพัฒนาในเขตชนบท ฤดูใบไม้ร่วงแห่งการปฏิวัติยังสะท้อนให้เห็นจากโครงการ รูปแบบการผลิตและการประกอบธุรกิจที่มีประสิทธิภาพของผู้ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างฐานะทั่วประเทศและสร้างความหวังใหม่ให้แก่โครงการลงทุนใหญ่ๆของเวียดนามในต่างประเทศ

ซึ่งในวันที่ 2กันยายนนี้ ประชาชนเวียดนามทุกคนต่างคิดถึงบิดาของประเทศเวียดนามคือประธานโฮจิมินห์ แววตาที่อบอุ่นของท่าน ภาพของท่านที่อ่านปฏิญญาเอกราชที่จัตุรัสบาดิ่ง ภาพของการทุ่มเททำงานในเขตเวียดบั๊ก ความทรงจำเกี่ยวกับการเยือนเขตโบราณสถานต่างๆและคำสั่งสอนของท่านที่ให้ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงานเพื่อสร้างสรรค์ประเทศและบ้านเกิด  ประชาชนเวียดนามทุกคนเชื่อมั่นว่า ประธานโฮจิมินห์ได้สร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่การพัฒนาประเทศเวียดนาม ซึ่งพื้นฐานดังกล่าวจะได้รับการธำรงพัฒนาตลอดไป

ทั้งนี้และทั้งนั้น แสดงให้เห็นว่า ฤดูใบไม้ร่วงแห่งการปฏิวัติเปรียบเสมือนแสงสว่างที่นำทางให้คนรุ่นหลังในการพิทักษ์รักษาและพัฒนาประเทศเวียดนามให้เจริญเข้มแข็งมากขึ้น.