ตามการประกาศของสภาการเลือกตั้งสูงสุดตุรกี หลังจากนับคะแนนไปแล้วร้อยละ 99.43 ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน เรเซป ตอยยิบ เออร์โดกันได้รับเสียงสนับสนุนร้อยละ 52.14 ส่วนคู่แข่งคือนาย Kemal Kilicdaroglu  ผู้นำพรรคประชาชนรีพับลิกัน หรือ CHP ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านและเป็นตัวแทนผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรคร่วมฝ่ายค้านตุรกีทั้ง 6 พรรคได้รับเสียงสนับสนุนร้อยละ 47.68 หลังจากที่ผลการเลือกตั้งดังกล่าวได้รับการประกาศ ประธานาธิบดี  เรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน  ได้ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้ง ส่วนนาย Kemal Kilicdaroglu   ได้ยอมรับความพ่ายแพ้

ชัยชนะของประธานาธิบดี เออร์โดกัน 

ในการกล่าวปราศรัยต่อหน้าผู้สนับสนุนที่บริเวณด้านหน้าทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงอังการา เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ประธานาธิบดี เออร์โดกัน  ได้กล่าวขอบคุณผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งตุรกีที่ได้ไว้วางใจและมอบหน้าที่การบริหารประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้าให้แก่ตัวเขา พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนส่งเสริมความสามัคคี อีกทั้งย้ำว่า การเลือกตั้งเป็นกิจกรรที่สำคัญที่สุดของตุรกีในยุคสมัยใหม่และยืนยันว่า ผลการเลือกตั้งเป็นชัยชนะของประชาชนตุรกี 85 ล้านคน

ส่วนบรรดานักวิเคราะห์ในภูมิภาคและโลกเห็นว่า การที่นาย เออร์โดกัน  ยังคงได้รับการสนับสนุนจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเนื่องจากการปฏิบัตินโยบายประชานิยมและนโยบายการต่างประเทศที่อิสระ  ในวาระที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2003 มาจนถึงปัจจุบัน นาย เออร์โดกัน  ได้ปฏิบัตินโยบายการต่างประเทศที่มีความยืดหยุ่นแต่เด็ดขาด ซึ่งช่วยเพิ่มอิทธิพลของตุรกีในภูมิภาค โดยเฉพาะท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับฝ่ายตะวันตก  อย่างเช่นเมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดี เออร์โดกัน  ได้เป็นคนกลางในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับยูเครน รวมทั้ง ประสบความสำเร็จในการเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยความคิดริเริ่มเกี่ยวกับข้อตกลงธัญพืชทะเลดำ ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งตุรกีหลายคนเห็นว่า ประธานาธิบดี เออร์โดกัน  ได้ช่วยให้ตุรกีมีเสียงพูดที่นับวันมีความสำคัญในภูมิภาคและโลก

หลังการประกาศผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีตุรกีรอบที่สอง บรรดาผู้นำโลก เช่น เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ประธานาธิบดีรัสเซีย ประธานาธิบดีสหรัฐ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ  ประธานาธิบดีอียิปต์และประธานาธิบดีอิหร่านได้แสดงความยินดีและแสดงความประสงค์ที่จะร่วมมือกับผู้นำตุรกี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสนใจพิเศษของประชาคมโลกต่อสถานการณ์การเมืองของตุรกีและบทบาทของประธานาธิบดี เออร์โดกัน  เพราะจากการมีสถานะภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญ   การที่ประเทศตุรกีมีเสถียรภาพมีความหมายที่สำคัญต่อเสถียรภาพของทั้งภูมิภาคตะวันออกกลางและยุโรป

ความท้าทายและโอกาส

แต่อย่างไรก็ดี บรรดานักวิเคราะห์เห็นว่า ควบคู่กับการได้รับความเชื่อมั่นจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประชาคมโลก  ประธานาธิบดี เออร์โดกัน  ยังต้องเผชิญกับแรงกดดันในการบริหารประเทศเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคและความท้าทายในปัจจุบัน โดยเฉพาะการฟื้นฟูเศรษฐกิจเนื่องจากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงและผลกระทบอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำหรับด้านการต่างประเทศ ความท้าทายอันดับหนึ่งคือการสร้างความสมดุลในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับฝ่ายตะวันตกเพื่อปกป้องผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ของตุรกี การเพิ่มอิทธิพลและผลประโยชน์ของตุรกีในภูมิภาคตะวันออกกลาง การประสานงานความสัมพันธ์กับบรรดาประเทศมหาอำนาจ จีนและสหภาพยุโรป

 บรรดาผู้เชี่ยวชาญยังให้ข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดี เออร์โดกัน  มีความได้เปรียบในวาระที่จะถึงนี้ ซึ่งการสนับสนุนจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นแรงกระตุ้นและเพิ่มความมั่นใจให้แก่ประธานาธิบดี เออร์โดกัน ในการยืนหยัดปฏิบัตินโยบายทั้งภายในและต่างประเทศ  ซึ่งสิ่งนี้ถูกระบุในการประกาศชัยชนะของประธานาธิบดี เออร์โดกัน  เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม  โดยให้คำมั่นว่า จะเสริมสร้างสถานะของตุรกีผ่านการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานเพื่อพัฒนาตุรกีไปสู่ระดับโลก ตุรกีจะปฏิบัติโครงการก่อสร้างศูนย์กลางก๊าซระหว่างประเทศในตุรกีตามข้อเสนอของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูติน ก่อนหน้านั้น ในการประกาศเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ประธานาธิบดี เออร์โดกัน  ได้ยืนยันว่า จะเพิ่มส่วนร่วมของตุรกีในเรื่องระเบียบโลก.