พลังชีวิตของอาเซียนหลังการก่อตั้งและพัฒนามาเกือบ 50 ปี

(VOVworld) – วันที่ 8 สิงหาคม สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนได้จัดพิธีฉลองครบรอบ 47 ปีวันก่อตั้ง หลังการพัฒนามาเป็นเวลาเกือบ 50 ปี อาเซียนได้กลายเป็นภูมิภาคที่นับวันพัฒนาอย่างคล่องตัวและสามัคคี พร้อมทั้งเป็นหุ้นส่วนที่ขาดไม่ได้ของบรรดาประเทศใหญ่และองค์การระหว่างประเทศที่สำคัญต่างๆ โอกาสนี้ ขอเชิญท่านดูสาระสำคัญในบทสัมภาษณ์ของท่านฝ่ามกวางวิงห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาและเป้าหมายของอาเซียนในอนาคตผ่านบทความเรื่อง “พลังชีวิตของอาเซียนหลังการก่อตั้งและพัฒนามาเกือบ 50 ปี”
(VOVworld) – วันที่ 8 สิงหาคม สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนได้จัดพิธีฉลองครบรอบ 47 ปีวันก่อตั้ง หลังการพัฒนามาเป็นเวลาเกือบ 50 ปี อาเซียนได้กลายเป็นภูมิภาคที่นับวันพัฒนาอย่างคล่องตัวและสามัคคี พร้อมทั้งเป็นหุ้นส่วนที่ขาดไม่ได้ของบรรดาประเทศใหญ่และองค์การระหว่างประเทศที่สำคัญต่างๆ โอกาสนี้ ขอเชิญท่านดูสาระสำคัญในบทสัมภาษณ์ของท่านฝ่ามกวางวิงห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาและเป้าหมายของอาเซียนในอนาคตผ่านบทความเรื่อง “พลังชีวิตของอาเซียนหลังการก่อตั้งและพัฒนามาเกือบ 50 ปี”
พลังชีวิตของอาเซียนหลังการก่อตั้งและพัฒนามาเกือบ 50 ปี - ảnh 1
ท่านฝ่ามกวางวิงห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม

ในตลอดเกือบ 50 ปีแห่งการคงอยู่และพัฒนา อาเซียนได้มีการเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน โดยเฉพาะโครงสร้างและลักษณะขององค์การ จากในตอนแรกที่มีสมาชิกเพียง 5 ประเทศ ปัจจุบันองค์การอาเซียนได้กลายเป็นองค์การระดับภูมิภาคโดยมีสมาชิกรวมทั้งหมด 10 ประเทศที่ร่วมกันมุ่งสู่การสร้างสรรค์ประชาคมและมีความเชื่อมั่น จากการเป็นสมาคมที่ร่วมมือกันตามกลไกที่คลอนแคลนคือ ปฏิญญาการเมืองค.ศ. 1967 มาปัจจุบัน อาเซียนได้มีหลักการทางนิตินัยกรอบทางกฎหมายและองค์กรต่างๆตามกฎบัตรอาเซียน อาเซียนนับวันยิ่งมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดจนกลายเป็นสมาคมที่สมบูรณ์และเป็นหุ้นส่วนที่ขาดมิได้ของบรรดาประเทศใหญ่และองค์การระหว่างประเทศที่สำคัญๆ เคล็ดลับในการพัฒนาอาเซียนให้ประสบความสำเร็จดังเช่นทุกวันนี้คือ จิตใจแห่งความสามัคคีเพื่อเป้าหมายการสร้างสรรค์ “ภูมิภาคที่สันติภาพ มีความมั่นคงและเสถียรภาพ เศรษฐกิจพัฒนาอย่างยั่งยืน สังคมที่ก้าวหน้าและเจริญรุ่งเรือง”
ปัจจัยที่ขาดมิได้ต่อสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค
ท่านฝ่ามกวางวิงห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเห็นว่า สิ่งที่โดดเด่นคือ อาเซียนเป็นปัจจัยสำคัญและเป็นเสาหลักในความพยายามของภูมิภาคเกี่ยวกับการสร้างสรรค์บรรยากาศแห่งสันติและความมีเสถียรภาพในภูมิภาค ท่านฝ่ามกวางวิงห์กล่าว “ในประวัติศาสตร์แห่งการพัฒนา โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมา อาเซียนได้ส่งเสริมบทบาทสำคัญในการรักษาสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพและความร่วมมือในภูมิภาคผ่านระบบและฟอรั่มต่างๆของกลุ่ม อาเซียนเข้าร่วมการสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการสร้างมาตรฐานการปฏิบัติในภูมิภาค ประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศหุ้นส่วนและประเทศใหญ่ๆได้สนับสนุนบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในภูมิภาค
ต่อสถานการณ์ที่ซับซ้อนและมีความท้าทายต่างๆในปัจจุบัน รวมทั้งการพิพาทเกี่ยวกับอธิปไตย เช่น อธิปไตยเหนือทะเลตะวันออก รัฐมนตรีช่วยฝ่ามกวางวิงห์เห็นว่า 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนจะต้องใช้ความพยายามอย่างสูงเพื่อรักษาบทบาทเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค “ หนึ่งคือ ต้องขยายความสามัคคีและสร้างสรรค์ประชาคมให้สำเร็จเพื่อส่งเสริมพลังภายในของอาเซียน สองคือต้องปรับปรุงกลไกและกรอบความร่วมมือของอาเซียน สามคือ สำหรับปัญหาที่เกี่ยวข้องถึงสันติภาพ ความมั่นคงและความร่วมมือ อาเซียนต้องมีเสียงพูดที่เป็นฝ่ายรุกตามหลักการของอาเซียน แบ่งปันผลประโยชน์ของอาเซียนกับประเทศที่เข้าร่วมความร่วมมือในภูมิภาคนี้โดยไม่ถูกกดดันจากประเทศใหญ่
พลังชีวิตของอาเซียนหลังการก่อตั้งและพัฒนามาเกือบ 50 ปี - ảnh 2
ปัจจุบันองค์การอาเซียนมีสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ

ประชาคมที่สามัคคีและเข้มแข็ง

ตามกำหนดการ อาเซียนจะเปิดตัวประชาคมในวันที่ 31 ธันวาคมปี 2015 ซึ่งเป็นนิมิตหมายสำคัญในประวัติศาสตร์การพัฒนาของอาเซียน โดยในกระบวนการสร้างสรรค์ประชาคมนั้น จะต้องปฏิบัติ 800 หน้าที่ตาม 3 เสาหลักคือ การเมือง-ความมั่นคง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม และจนถึงขณะนี้ อาเซียนได้เสร็จสิ้นภารกิจดังกล่าวร้อยละ 80 แล้ว
การก่อตัวของประชาคมอาเซียนเป็นนิมิตหมายแห่งการพัฒนาในด้านคุณภาพของอาเซียนแต่วิสัยทัศน์ของอาเซียนหลังการก่อตั้งประชาคมเป็นสิ่งสำคัญมากกว่า ดังนั้น บรรดาผู้นำอาเซียนได้ตั้งใจที่จะสร้างสรรค์วิสัยทัศน์พัฒนาประชาคมหลังปี 2015 ซึ่งเน้นปฏิบัติเป้าหมายที่ได้รับความสนใจเป็นดันดับต้นๆคือ ลดอัตราผู้ยากจนเหลือครึ่งหนึ่ง เพิ่มจีดีพีขึ้นเป็นสองเท่า พัฒนาบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในสภาวการณ์ที่นับวันยิ่งมีความซับซ้อนและมีผลกระทบจากประเทศใหญ่ๆ สำหรับภารกิจของอาเซียนในเวลาที่จะถึง ท่านฝ่ามกวางวิงห์ย้ำว่า “อาเซียนต้องมีความสามัคคีกัน ส่งเสริมเสียงพูดที่เป็นฝ่ายรุกของตน โดยเฉพาะรักษาการปฏิบัติหลักการที่ได้วางไว้ของภูมิภาค รวมทั้งกฎหมายสากล สำหรับปัญหาในภูมิภาค อาเซียนต้องมีเสียงพูดที่มีความรับผิดชอบ นี่คือเป้าหมายของอาเซียน
19 ปีที่เข้าเป็นสมาชิกอย่างมีความรับผิดชอบของอาเซียน
ในตลอด 19 ปีที่เข้าเป็นสมาชิกของอาเซียน เวียดนามค่อยๆผสมผสานอย่างกว้างลึกเข้าในความพยายามร่วมกันของอาเซียน มีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งและมีความรับผิดชอบต่อภารกิจของอาเซียนและร่วมมือกับอาเซียนมุ่งสู่ประชาคมในปี 2015 รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศฝ่ามกวางวิงห์ยืนยันว่า “พวกเราพยายามร่วมกับบรรดาประเทศอาเซียนรักษาความสามัคคี แสดงบทบาทที่เป็นฝ่ายรุกของอาเซียน โดยเฉพาะรักษาหลักการของกฎหมายสากลและส่วนร่วมของเรากับบรรดาประเทศอาเซียนอื่นๆเพื่อแสดงบทบาทของอาเซียนต่อปัญหาที่ซับซ้อน เช่นปัญหาทะเลตะวันออก ซึ่งสามารถเห็นได้ชัดจากการที่อาเซียนออกแถลงการณ์ร่วม 6 ข้อและออกแถลงการณ์ในวันที่ 10 พฤษภาคมเกี่ยวกับสถานการณ์ซับซ้อนในทะเลตะวันออก
อาเซียนกำลังมุ่งสู่การก่อตั้งประชาคมอย่างใกล้ชิด ดังนั้น จากความสามัคคี ความพยายามและความตั้งใจของบรรดาประเทศสมาชิกประชาคม อาเซียนจะมีก้าวพัฒนาต่อไปเพื่อเป้าหมายความเชื่อมโยงในระดับที่สูงขึ้น ในฐานะประเทศสมาชิกที่มีความรับผิดชอบสูงและเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของอาเซียน อนาคตการพัฒนาของเวียดนามจะมีความเชื่อมโยงกับการพัฒนาและผสมผสานของอาเซียนต่อไป./.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด