เพื่ออาเซียนที่มีบทบาทสำคัญมากขึ้นบนเวทีโลก

(VOVworld) – วันที่ 5 สิงหาคม คณะผู้แทนเวียดนามนำโดยท่าน ฝ่ามบิ่งมิง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศจะเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่าง ประเทศอาเซียนหรือเอเอ็มเอ็มครั้งที่ 47และการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้องที่กรุงเนปิดอย์ประเทศพม่าเพื่อกระชับความ สามัคคีและความร่วมมืออาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ...
(VOVworld) – วันที่ 5 สิงหาคม คณะผู้แทนเวียดนามนำโดยท่าน ฝ่ามบิ่งมิง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศจะเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนหรือเอเอ็มเอ็มครั้งที่ 47และการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้องที่กรุงเนปิดอย์ประเทศพม่าเพื่อกระชับความสามัคคีและความร่วมมืออาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ผลักดันบทบาทที่เป็นฝ่ายรุกและความรับผิดชอบของอาเซียนต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ธำรงบทบาทเชิงรุกของอาเซียนในสถานการณ์ใหม่ ผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือกับหุ้นส่วนต่างๆเพื่อมีส่วนร่วมต่อสันติภาพ ความมั่นคงและการพัฒนาในภูมิภาค ตลอดจนยกระดับบทบาทและสถานะของเวียดนามให้มากยิ่งขึ้น
เพื่ออาเซียนที่มีบทบาทสำคัญมากขึ้นบนเวทีโลก - ảnh 1
ท่าน ฝ่ามบิ่งมิง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ

การประชุมต่างๆครั้งนี้ล้วนเป็นการประชุมรัฐมนตรีที่สำคัญของภูมิภาคโดยมีรัฐมนตรีต่างประเทศและหัวหน้าคณะผู้แทนจาก 27 ประเทศเข้าร่วมเพื่อเน้นประเมินสถานการณ์ความร่วมมืออาเซียน ความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนต่างๆในเวลาที่ผ่านมา หารือมาตรการผลักดันความสัมพันธ์ร่วมมือนี้ในเวลาที่จะถึง หารือเกี่ยวกับปัญหาระดับภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน โดยเฉพาะปัญหาที่เกี่ยวข้องถึงสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค

มีความปรารถนาร่วมเกี่ยวกับบรรายากาศที่สันติและเสถียรภาพ

ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ทั้งในระดับภูมิภาคและโลกมีการผันผวนอย่างซับซ้อน จากจุดร้อนแห่งการพิพาทไปจนถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือผลกระทบในทางลบจากวิกฤตเศรษฐกิจและการเงินโลก โดยเฉพาะสถานการณ์ความตึงเครียดในทะเลตะวันออกเมื่อเร็วๆนี้ บรรดาประเทศสมาชิกอาเซียนจึงเข้าใจดีและรอคอยการสร้างสรรค์บรรยากาศที่สันติและเสถียรภาพเพื่อร่วมกันพัฒนา ดังนั้นเจตนารมณ์ร่วมของการประชุมครั้งนี้คืออาเซียนต้องพยายามร่วมมือต่อไปเพื่อสันติภาพ ความมั่นคงและการพัฒนาร่วมในภูมิภาค ท่าน ฝ่ามกวางวิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่าเวียดนามจะผลักดันการทาบทามเกี่ยวกับระเบียบการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือซีโอซี ควบคู่กับการปฏิบัติข้อกำหนดต่างๆในแถลงการณ์ว่าด้วยการปฏิบัติต่อกันของทุกฝ่ายในทะเลตะวันออกหรือดีโอซีเป็นอย่างดี ผมเชื่อมั่นว่า การรื้อฟื้นการเจรจาและการกำหนดท่าทีที่ชัดเจนของอาเซียนจะทำให้จีนต้องหารือเกี่ยวกับซีโอซีอย่างเป็นทางการและจริงจังอย่างแน่นอน”

ความจริงจังและประสิทธิภาพของความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนต่างๆ

หวนมองกลับไปใน 1 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 46 ที่บรูไน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกันหรือกับประเทศคู่เจรจายังคงได้รับการพัฒนาอย่างเข้มแข็งและจริงจัง
ด้านความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอาเซียนก็ได้รับการขยายในด้านใหม่และมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้นผ่านการจัดตั้งกลไกใหม่ แผนปฏิบัติการอาเซียน-จีนในช่วงปี 2011-2015 ก็ได้รับการปฏิบัติอย่างเข้มแข็ง สำหรับประเทศญี่ปุ่น นอกจากการผลักดันการปฏิบัติข้อตกลงและคำมั่นที่ได้ลงนาม ในปี 2014 ญี่ปุ่นยังคงขยายความร่วมมือเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมในการบริหารภัยธรรมชาติ การทูต สาธารณสุขโลก การขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการบริหารตัวเมือง ส่วนโครงการร่วมมือหลัก 33 โครงการที่ญี่ปุ่นเป็นผู้เสนอและคำมั่นช่วยเหลือเงินโอดีเอ มูลค่า 5 แสนล้านเยนให้แก่ประเทศในลุ่มแม่น้ำโขงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายใน 3 ปีข้างหน้ากำลังได้รับการปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนในความร่วมมือกับอินเดีย ทั้งสองฝ่ายได้พยายามผลักดันโครงการเชื่อมโยงอินเดีย-อาเซียนทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำและเทคโนโลยีดิจิตอล สำหรับความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับสาธารณรัฐเกาหลี ทั้งสองฝ่ายกำลังแปรเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1 แสน 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2015
ความสัมพันธ์กับสหรัฐ ทั้งสองฝ่ายผลักดันความสัมพันธ์สนทนาขึ้นเป็นความสัมพันธ์ยุทธศาสตร์ โดยสหรัฐยืนยันถึงนโยบายผลักดันความเชื่อมโยงกับภูมิภาค ให้คำมั่นผลักดันความร่วมมือกับอาเซียนทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจและการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน ให้การช่วยเหลืออาเซียนเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนภายในปี 2015ให้ประสบความสำเร็จ สหรัฐถืออาเซียนเป็นศูนย์กลางของโครงสร้างภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและเป็นศูนย์กลางของยุทธศาสตร์ปรับความสมดุลที่สหรัฐกำลังมุ่งปฏิบัติ นาย ชัคเฮเกล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐได้ย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือสหรัฐ-อาเซียน โดยเฉพาะในด้านการป้องกันประเทศในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมระหว่างสหรัฐกับ 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนเมื่อเดือนเมษายนปี 2014สามารถยืนยันได้ว่า สัมพันธไมตรีระหว่างอาเซียนกับสหรัฐคือโอกาสที่นับวันเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้พวกเราร่วมมือกันเพื่อแก้ไขความท้าทายด้านความมั่นคงใหม่และยาวนานในย่านเอเชียแปซิฟิก ความร่วมมือในด้านการป้องกันประเทศอาเซียน-สหรัฐครั้งนี้คือนิมิตหมายสำคัญซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่นับวันมีการขยายตัวมากขึ้นระหว่างสหรัฐกับอาเซียนและสหรัฐให้ความสำคัญต่อบทบาทของอาเซียน”

เพื่ออาเซียนที่มีบทบาทสำคัญมากขึ้นบนเวทีโลก

ดำเนินแนวทาง “เป็นฝ่ายรุก เข้มแข็งและมีความรับผิพดชอบ” รัฐมนตรีต่างประเทศ ฝ่ามบิ่งมิง ที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนร่วมสำคัญ ในการผลักดันความสามัคคีอาเซียน ตลอดจนเสนอปัญหาที่จะได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของอาเซียนและภูมิภาคซึ่งนาย เลหายบิ่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เผยว่า การผลักดันความสามัคคีในอาเซียน ธำรงบรรยากาศที่สันติและเสถียรภาพในภูมิภาคเพื่อพัฒนาคือเป้าหมายของเวียดนามในการประชุมครั้งนี้คณะผู้แทนเวียดนามที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนร่วมที่เป็นรูปธรรมและเสนอข้อคิดริเริ่มเพื่อมีส่วนร่วมเสริมสร้างบทบาทสามัคคีของอาเซียน ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับหุ้นส่วนต่างๆเพื่อมีส่วนร่วมธำรงสันติภาพ ความมั่นคงและความปลอดภัยในภูมิภาค เวียดนามชื่นชมทุกข้อคิดริเริ่ม ตลอดจนความพยายามที่สร้างสรรค์และมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งต่อการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคงและความปลอดภัยในการเดินเรือในภูมิภาค”
สำหรับเป้าหมายในเวลาข้างหน้าของอาเซียนคือ “ความเป็นหนึ่งเดียวภายใต้ชะตากรรมเดียวกัน” ซึ่งทำให้อาเซียนต้องมีความเข้มแข็งในสามเสาหลัก ประกอบด้วย การเมือง-ความมั่นคง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคมซึ่งควบคู่กับประเทศสมาชิกอาเซียน เวียดนามกำลังพยายามผลักดันความเชื่อมโยงและลดช่องว่างการพัฒนา ธำรงบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนเพื่อสร้างสรรค์ประชาคมอาเซียนที่เข้มแข็ง เชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นและพัฒนาอย่างยั่งยืนในปี 2015และปีต่อๆไป./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด