มุ่งสู่การสื่อสารมวลชนที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการต่อสู้และปรับตัวเข้ากับยุคใหม่

(VOVWORLD) - งานหนังสือพิมพ์ทั่วประเทศ 2019 ภายใต้หัวข้อ “สื่อสารมวลชนเวียดนามเปลี่ยนแปลงใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบเพื่อผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน” ได้เสร็จสิ้นลงเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ณ กรุงฮานอย หลังจากจัดขึ้นอย่างคึกคักเป็นเวลา 3 วัน โดยงานครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามเกาะติดข้อมูล แนะแนวประชามติ มุ่งสู่การสื่อสารมวลชนที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการต่อสู้ การปรับตัวเข้ากับยุคใหม่เพื่อผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน
มุ่งสู่การสื่อสารมวลชนที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการต่อสู้และปรับตัวเข้ากับยุคใหม่ - ảnh 1นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก กล่าวปราศรัยในงาน

งานหนังสือพิมพ์ทั่วประเทศ 2019 คือกิจกรรมด้านวัฒนธรรมและสื่อสารมวลชนที่ใหญ่ที่สุดของวงการสื่อมวลชนเวียดนามที่มีขึ้นเป็นประจำทุกปี และเป็นโอกาสเพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้พบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านวิชาชีพ ตลอดจนพบปะกับผู้ชมผู้ฟังผู้อ่านในทั่วประเทศ

มุ่งสู่การสื่อสารมวลชนที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการต่อสู้

การสื่อสารมวลชนที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการต่อสู้คือความต้องการที่เร่งด่วนของสื่อมวลชนเวียดนาม ในพิธีเปิดงาน นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้ย้ำว่า “พรรค รัฐและประชาชนให้ความสำคัญต่อบทบาทของสื่อมวลชน ถือสื่อมวลชนเป็นช่องทางการสื่อสารที่สำคัญ เป็นกองกำลังเดินหน้าในด้านแนวคิด วัฒนธรรมและคือฟอรั่มอันกว้างใหญ่ของประชาชน” ด้วยบทบาทที่ยิ่งใหญ่ของสื่อมวลชนในสภาวการณ์ที่ประเทศนับวันผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างกว้างลึก สื่อมวลชนที่เน้นเผยแพร่ปัญหาที่กำลังได้รับความสนใจจากประชามติตามแนวทางของพรรค นโยบายและกฎหมายของรัฐคือความต้องการที่สำคัญ นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก ได้แสดงความเห็นว่า “สื่อมวลชนต้องเน้นรายงานข่าวที่กำลังได้รับความสนใจจากประชาชนตามแนวทางของพรรค นโยบายและกฎหมายของรัฐ สื่อมวลชนต้องเน้นประชาสัมพันธ์ข้อดี ตัวอย่างดีเด่น ทำความดีเพื่อขยายผลให้เป็นขบวนการแข่งขันรักชาติ สร้างความเชื่อมั่นและความคาดหวังให้สังคม สร้างพลังขับเคลื่อนด้านจิตใจเพื่อผลักดันภารกิจแห่งการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ”

สื่อมวลชนในยุคใหม่กำลังให้ความสำคัญต่อความรับผิดชอบในภารกิจการต่อสู้เพื่อต่อต้านความเสื่อมถอยด้านแนวคิด การทุจริต การใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย “การผันแปรภายใน” หนังสือพิมพ์หลายฉบับได้เป็นฝ่ายรุกในการต่อต้านทัศนคติที่ผิดพลาดและคารมที่บิดเบือนความจริงของกลุ่มอิทธิพลที่เป็นอริ ผู้ฉกฉวยโอกาสและผู้ที่ไม่เห็นด้วยแนวทางการเมืองเพื่อต่อต้านทำลายพรรค รัฐและแบ่งแยกกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ ซึ่งผลงานนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่า นักข่าวหลายคนได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นทางการเมือง การปฏิวัติ ความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง มีจิตใจแห่งการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก แต่อย่างไรก็ตาม ในกระแสที่คึกคักของสื่อมวลชน ต้องมีมาตรฐานในการรายงานข่าว วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์และแนะแนวประชามติของผู้สื่อข่าว รองศาสตราจารย์ ดร. ห่าวฮวีเฝื่อง จากสถาบันการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ได้แสดงความเห็นว่า “สมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนามและสำนักงานสื่อสารมวลชนได้จัดทำมาตรฐานของผู้สื่อข่าวซึ่งต้องมีทักษะความสามารถและความรู้ ดังนั้น เมื่อประกอบอาชีพก็จะกำหนดแนวทางให้แก่ตนเองได้ ถ้าไม่สามารถกำหนดแนวทางให้แก่ตนเองก็ไม่สามารถแนะแนวประชามติได้”

มุ่งสู่การสื่อสารมวลชนที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการต่อสู้และปรับตัวเข้ากับยุคใหม่ - ảnh 2นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุก กับรองศาสตราจารย์ ดร. เหงียนเท้กี๋ ประธานสถานีวิทยุเวียดนาม และบรรดาผู้แทนเข้าชมงาน

ปรับตัวเข้ากับยุคใหม่

การปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 และการพัฒนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการประชาสัมพันธ์ได้ส่งผลกระทบอย่างกว้างลึกต่อทุกด้านของชีวิตสังคม ซึ่งสื่อมวลชนก็อยู่ในกระแสนี้เช่นกัน ดังนั้นในงานหนังสือพิมพ์ หัวข้อนี้จึงได้รับความสนใจจากผู้บริหารของสื่อเวียดนามทุกแขนง โดยรองศาสตราจารย์ ดร. เหงียนเท้กี๋ ประธานสถานีวิทยุเวียดนาม ได้แสดงความเห็นว่า ต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อสามารถรายงานข่าวได้อย่างถูกต้อง น่าเชื่อถือ และมีการแนะแนวประชามติในระดับสูง นี่คือความต้องการที่เร่งด่วนของสื่อทุกแขนงและนักข่าวทุกคนในปัจจุบันเพื่อมุ่งสู่ผู้ฟังผู้ชมและผู้อ่าน“กิจกรรมสื่อสารมวลชนล้วนมุ่งสู่ประชาชน และถ้าหากไม่มีผู้ชมผู้ฟัง พวกเราก็ไม่มีความหมาย ดังนั้น สำนักงานสื่อสารมวลชนต้องตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายให้ได้”

มุ่งสู่การสื่อสารมวลชนที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการต่อสู้และปรับตัวเข้ากับยุคใหม่ - ảnh 3 นาย โห่กวางเหล่ย นักข่าวและอุปนายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนาม

นาย โห่กวางเหล่ย นักข่าวและอุปนายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์เวียดนามได้แสดงความเห็นว่า “พวกเราต้องเปลี่ยนแปลงใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์และใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อเผยแพร่ข้อมูลอย่างถูกต้อง น่าเชื่อถือและแนะแนวประชามติในระดับสูงได้ นี่คือความต้องการที่เร่งด่วนขององค์การสื่อสารมวลชนและนักข่าวทุกคนในปัจจุบัน พวกเราไม่สามารถเอาชนะเครือข่ายสังคมออนไลน์ผ่านการรายงานข่าวอย่างรวดเร็ว แต่สามารถเสนอข่าวที่ชัดลึกและน่าเชื่อถือได้ นั่นคือจุดแข็งและจุดเด่นของเรา”

ประธานโฮจิมินห์เคยพูดว่า นักข่าวคือนักปฏิวัติ  ปากกาและกระดาษคืออาวุธที่แหลมคม ในงานหนังสือพิมพ์ทั่วประเทศ 2019 ประชาชนสามารถเห็นถึงโฉมหน้าที่คึกคักของสื่อมวลชนที่กำลังพัฒนาและเต็มไปด้วยพลังแห่งการต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด