ยกระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของกลไกสำนักงานภาครัฐ

(VOVWORLD) - ในการหารือเกี่ยวกับกลไกสำนักงานภาครัฐในการประชุมสภาแห่งชาติครั้งที่ 4 สมัยที่ 14 ในวันที่ 30 ตุลาคม สมาชิกสภาแห่งชาติได้มีข้อเสนอแนะหลายข้อเพื่อให้กลไกสำนักงานภาครัฐมีความกระทัดรัด และดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ยกระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของกลไกสำนักงานภาครัฐ - ảnh 1การประชุมคณะกรรมการกลางพรรคครั้งที่ 6 สมัยที่ 12 ได้หารือเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างกลไกภาครัฐ (VGP) 

 

การหารือเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างกลไกสำนักงานภาครัฐดำเนินไปเป็นเวลา 5 วัน หลังจากที่เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เหงียนฟู้จ่อง ลงนามประกาศใช้มติ 18 ว่าด้วย “บางปัญหาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ การปรับปรุงกลไกระบบการเมืองให้มีความกระทัดรัดและมีประสิทธิภาพ” บรรดาผู้แทนสภาแห่งชาติได้เน้นเสนอให้ปรับปรุงโครงสร้างในระดับตำบลและจังหวัดให้มีความกระทัดรัดและมีความคล่องตัว ลดจำนวนสำนักงานในกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ

ปัจจุบัน มีเจ้าหน้าที่ข้าราชการ 4 ล้านคนได้รับเงินเดือนจากงบประมาณแผ่นดิน ยกเว้นกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งหน้าที่ของสำนักงานต่างๆในอีก 4 ปีข้างหน้าคือปรับลดอย่างน้อย 4 แสนตำแหน่ง

ปรับปรุงกลไกระดับตำบล สำนักงานและหน่วยงานระดับจังหวัด

ข้อกำหนดในปัจจุบันระบุว่า ตำบลต้องมีพื้นที่อย่างน้อย 30 ตารางกิโลเมตรและประชากร 5 พันคนขึ้นไป แต่ทั่วประเทศมีตำบลกว่า 700 แห่ง ซึ่งไม่สามารถบรรลุมาตรฐานครึ่งหนึ่งเกี่ยวกับประชากรและพื้นที่ธรรมชาติ โดยเฉพาะมีตำบล เขต แขวงหลายแห่งมีพื้นที่ไม่ถึง 1 ตารางกิโลเมตร เฉลี่ยตำบลแต่ละแห่งมีเจ้าหน้าที่ข้าราชการ 20 คน ซึ่งยังไม่นับรวมผู้ที่ปฏิบัติงานไม่ประจำจำแหน่ง ดังนั้นการผนวกตำบลนับร้อยแห่งจะช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดินนับล้านล้านด่งต่อปี นาย ฝ่ามวันหว่า สมาชิกสภาแห่งชาติจังหวัดด่งทาปได้เผยว่า “มีแผนการตั้งแต่ปี 2021 จะผนวกรวมตำบลและอำเภอที่ไม่บรรลุมาตรฐานด้านประชากรและพื้นที่เข้าด้วยกัน ซึ่งจะทำให้จำนวนหน่วยงานราชการสังกัดจังหวัดจะลดลง ทำการศึกษาเพื่อผนวกรวมจังหวัดที่มีหน่วยงานราชการไม่พอและมีประชากรอยู่ในระดับต่ำ การที่เวียดนามมี 63 จังหวัดและนครในปัจจุบันถือว่าค่อนข้างมาก ขอให้รัฐบาลเสนอให้สภาแห่งชาติแก้ไขบางมาตราในรัฐธรรมนูญ คือยกเลิกสภาประชาชนในระดับอำเภอและตำบล และให้เพิ่มจำนวนสมาชิกสภาประชาชนระดับจังหวัดเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบในอำเภอที่ตนลงสมัครรับเลือกตั้ง ส่วนเลขาธิการพรรคระดับตำบลก็จะเป็นประธานคณะกรรมการประชาชน”

สำหรับสำนักงานวิชาชีพสังกัดคณะกรรมการประชาชนระดับจังหวัด มีผู้แทนหลายคนได้แสดงความเห็นว่า ต้องกระจายอำนาจเป็นการเฉพาะให้แก่ท้องถิ่น โดยไม่บังคับให้ทุกจังหวัดและนครต้องปฏิบัติเหมือนกันเหมือนที่ผ่านมา หากมีนโยบายที่เปิดกว้างและมอบสิทธิเป็นฝ่ายรุกในการปฏิบัติให้แก่ท้องถิ่น ทางการปกครองท้องถิ่นมีสิทธิ์พิจารณาและตัดสินใจเกี่ยวกับการผนวก ยุบรวมหรือจัดตั้งสำนักงานวิชาชีพให้สอดคล้องกับเงื่อนไขเศรษฐกิจสังคมของท้องถิ่น โดยส่วนกลางเป็นฝ่ายกำหนดเกี่ยวกับจำนวนรองหัวหน้าสำนักงานส่วนจังหวัด ส่วนทางการท้องถิ่นมีสิทธิ์แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตามความเหมาะสมแต่ไม่เกินจำนวนกำหนด การลดจำนวนผู้บริหารจะช่วยประหยัดงบประมาณแผ่นดินในระดับค่อนข้างสูง นาง เฟืองถิแทง สมาชิกผู้แทนสภาแห่งชาติจังหวัดบั๊กก่านได้เสนอว่า “รัฐบาลต้องตรวจสอบการชี้นำ การประกาศใช้เอกสารตามแนวทางมาตรฐาน รัฐบาลกำหนดเกี่ยวกับการจัดตั้งและจำนวนตำแหน่งงานของสำนักงานวิชาชีพของจังหวัดของกระทรวง มอบอำนาจให้ทางการท้องถิ่นตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดตั้งสำนักงานเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับพื้นฐานเงื่อนไขของท้องถิ่น และเสนอให้กระทรวงต่างๆมีข้อกำหนดเกี่ยวกับตำแหน่งราชการเพื่อให้ท้องถิ่นปฏิบัติตาม”

ลดจำนวนหน่วยงานในกระทรวง

สมาชิกสภาแห่งชาติหลายคนได้เห็นพ้องกันว่า ต้องปรับปรุงหน่วยงานในสังกัดให้มีความกระทัดรัด ลดจำนวนทบวง กรมและสำนักงาน ไม่จัดตั้งหน่วยงานใหม่ที่สังกัดกรม ในทางเป็นจริงในหลายปีที่ผ่านมาปรากฎว่า จำนวนทบวงได้เพิ่มขึ้น 2 เท่า ซึ่งในปัจจุบันมี 42 ทบวง นอกจากนั้น ต้องศึกษาทั้งในด้านทฤษฎีและสถานการณ์ที่เป็นจริงเกี่ยวกับขอบเขตการบริหารสำนักงานวิชาชีพของกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะสำนักงานที่มีหน้าที่คล้ายคลึงกันและซ้ำซ้อน เพื่อมีมาตรการที่เหมาะสม นาย ฟานเวียดเหลื่อง สมาชิกสภาแห่งชาติจังหวัดบิ่งเฟือกได้แสดงความเห็นว่า “ต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อหน้าที่ มาตรการที่เป็นก้าวกระโดดควบคู่กับกระบวนการที่เป็นรูปธรรม โดยก่อนอื่นต้องแก้ไขด้านสิทธิและโครงสร้างของกระทรวงและหน่วยงานตามแนวทางปรับปรุงให้มีความกระทัดรัด มีข้อกำหนดเกี่ยวกับมาตรฐาน จำนวนตำแหน่งงานและรองหัวหน้าของกรมและสำนักงานวิชาชีพเพื่อปรับปรุงโครงสร้างภายใน ผลักดันการปฏิรูประเบียบราชการ ลดความซ้ำซ้อนในด้านระเบียบราชการและเพิ่มความโปร่งใสและเปิดเผย”

การยกระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของกลไกสำนักงานภาครัฐคือแนวทางใหญ่ของเวียดนาม การปฏิบัติมาตรการต่างๆอย่างพร้อมเพรียงจะค้ำประกันความเป็นเอกภาพ และมีส่วนร่วมยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันระดับชาติ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด