รัฐบาลดิจิทัลคือพลังขับเคลื่อนและแกนหลักในการสร้างสรรค์เศรษฐกิจดิจิทัล พลเมืองดิจิทัลและสังคมดิจิทัล

(VOVWORLD) -โครงการพัฒนาการประยุกต์ใช้ฐานข้อมูลเกี่ยวกับประชากรแห่งชาติและการออกบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อสนับสนุนการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลแห่งชาติระยะปี 2022-2025 วิสัยทัศน์ถึงปี 2030” ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเมื่อวันที่ 6 มกราคมปี 2021 ซึ่งเป็นนิมิตหมายสำคัญพิเศษในกระบวนการสร้างสรรค์และพัฒนารัฐบาลดิจิทัล พลเมืองดิจิทัลและสังคมดิจิทัลในเวียดนาม หลังการปฏิบัติเป็นเวลา 1 ปี เวียดนามได้ประสบผลสำเร็จที่น่าสนใจต่างๆ ซึ่งผลสำเร็จเหล่านี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในปัจจุบัน
รัฐบาลดิจิทัลคือพลังขับเคลื่อนและแกนหลักในการสร้างสรรค์เศรษฐกิจดิจิทัล พลเมืองดิจิทัลและสังคมดิจิทัล - ảnh 1ภาพการประชุม (หนังสือพิมพ์ เญินเซิน)

โครงการฯ ได้กำหนดเป้าหมายและมาตรการที่เป็นรูปธรรม เช่น การใช้ฐานข้อมูลเกี่ยวกับประชากรแห่งชาติเพื่อแก้ไขระเบียบราชการต่างๆและให้บริการทางออนไลน์ ประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสังคม สร้างสรรค์พลเมืองดิจิทัล ปรับปรุงระบบนิเวศให้มีความสมบูรณ์เพื่อสนับสนุนการเชื่อมโยง การใช้และการเสริมเพิ่มเติมฐานข้อมูลเกี่ยวกับประชากร ประยุกต์ใช้เพื่อสนับสนุนการชี้นำและการบริหารของผู้บริหารทุกระดับ ซึ่งถึงขณะนี้ ได้มีการจัดทำฐานข้อมูลที่สำคัญต่าง ๆ หลายรายการ

ผลสำเร็จที่เป็นพื้นฐาน

หลังการปฏิบัติมาเป็นเวลา 1 ปี โครงการฯ ได้ประสบผลที่สำคัญๆ ซึ่งที่น่าสนใจคือความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงในทางบวกอย่างเห็นได้ชัดในหน่วยงานทุกระดับและในท้องถิ่นต่างๆ โดยเฉพาะในระดับผู้บริหาร

ปัจจุบันนี้ มีท้องถิ่น 48 แห่งจากจำนวนทั้งหมด 63 นครและจังหวัดทั่วประเทศที่จัดตั้งศูนย์ติดตามและบริหารอัจฉริยะในระดับจังหวัด กระทรวงสื่อสารและประชาสัมพันธ์ได้ประสานงานกับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ประเมินและประกาศแพลตฟอร์มดิจิทัล 50 แพลตฟอร์ม โดยมี 18 แพลตฟอร์มที่สนับสนุนรัฐบาลดิจิทัล 16 แพลตฟอร์มสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัลและอีก 16 แพลตฟอร์มสนับสนุนสังคมดิจิทัล มีการผลักดันให้นครและจังหวัดทุกแห่งนำใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างน้อย 1 แพลตฟอร์มในกระบวนการปฏิบัติหน้าที่  มีการผลักดันการสร้างฐานข้อมูลแห่งชาติและฐานข้อมูลเชิงวิชาการอย่างเข้มแข็ง โดยมีการเชื่อมโยง และสนับสนุนการให้บริการด้านสารณะออนไลน์สำหรับประชาชนและสถานประกอบการ ซึ่งการให้บริการสาธารณะออนไลน์นับวันได้รับการปฏิบัติอย่างกว้างลึกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความปลอดภัยและความมั่นคงด้านข้อมูลได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง เศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างน่ายินดี โดยเฉพาะในการชำระภาษีออนไลน์ การออกใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ อี-คอมเมิร์ซและการชำระแบบไม่ใช้เงินสด เป็นต้น

ผลสำเร็จที่ได้บรรลุดังกล่าวถือเป็นพลังขับเคลื่อนให้เวียดนามปฏิบัติการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลอย่างเข้มแข็งมากขึ้นในเวลาข้างหน้า ในการประชุมสรุปผล 1 ปีการปฏิบัติโครงการฯ ที่มีขึ้น ณ กรุงฮานอย เมื่อวันที่ 25 ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า เพื่อปฏิบัติหน้าที่การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลแห่งชาติ จำเป็นต้องมีความตั้งใจและความพยายามในระดับสูง รวมทั้งการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดด้วย นี่คือกระบวนการปรับเปลี่ยนทั้งความคิด ความรู้และการปฏิบัติ

            “การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลคือปัญหาใหม่ ยากลำบาก ซับซ้อนและอ่อนไหว ซึ่งต้องเรียนรู้ประสบการณ์จากนานาชาติและประยุกต์ใช้อย่างคล่องตัวให้สอดคล้องกับเงื่อนไขและสถานการณ์ในประเทศเวียดนาม จำเป็นต้องมีความคิดเชิงก้าวกระโดดและวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์ ส่งเสริมจิตใจแห่งการพึ่งตนเอง ความสามัคคี ความเป็นฝ่ายรุก ความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิดกล้าทำเพื่อผลประโยชน์ของส่วนรวม ต้องปฏิบัติเป็นประจำในทุกระดับ ทุกหน่วยงานและทุกท้องถิ่นบนพื้นฐานคือการระดมพลังทุกแหล่งของทั้งระบบการเมือง รัฐบาลดิจิทัลคือพลังขับเคลื่อนหลัก เป็นแกนหลักในการแนะแนวการสร้างสรรค์เศรษฐกิจดิจิทัล พลเมืองดิจิทัลและสังคมดิจิทัล การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลต้องได้รับการปฏิบัติในทุกด้าน มีการเน้นถึงด้านหลักๆ มีการปฏิบัติอย่างรอบคอบ จริงจังและมีประสิทธิภาพ”

รัฐบาลดิจิทัลคือพลังขับเคลื่อนและแกนหลักในการสร้างสรรค์เศรษฐกิจดิจิทัล พลเมืองดิจิทัลและสังคมดิจิทัล - ảnh 2นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง กล่าวปราศรัยในการประชุม (หนังสือพิมพ์เญินเซิน)

สร้างสรรค์ฐานข้อมูลแห่งชาติ ถือประชาชนเป็นศูนย์กลาง

ในกระบวนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล นอกจากเน้นถึงการปรับปรุงระเบียบ กลไก นโยบายและสร้างกรอบทางนิตินัยเพื่อผลักดันการปรับเปลี่ยนสู่สุ่ยุคดิจิทัลแล้ว เวียดนามยังผลักดันการสร้างสรรค์ระบบฐานข้อมูลแห่งชาติ ที่มีการเชื่อมโยงระหว่างแพลตฟอร์มต่างๆ สนับสนุนให้นักวิจัย นักวางแผนนโยบายและประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับปัญหานี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า การเชื่อมโยงและการใช้ฐานข้อมูลเหล่านี้คือปัจจัยสำคัญในการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล จำเป็นต้องสร้างสรรค์ฐานข้อมูลแห่งชาติให้มีความสมบูรณ์ ถือประชาชนเป็นศูนย์กลางและเป็นเจ้าของ โดยทุกนโยบายต้องมุ่งเป้าไปยังประชาชนและประชาชนต้องได้รับสิทธิ์เข้าร่วมกระบวนการนี้

            “ปี 2023 เป็นปีแห่งข้อมูล ดังนั้น จำเป็นต้องสร้างสรรค์ศูนย์ข้อมูลแห่งชาติให้ได้ภายในปี 2023 นี่คือสมบัติของประเทศ ต้องค้ำประกันความปลอดภัยและความมั่นคงในด้านข้อมูล ค้ำประกันสิทธิพลเมืองตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย”

ในเวลาข้างหน้า เวียดนามจะเน้นจัดทำและปฏิบัติระบบให้บริการสาธารณะที่จำเป็นต่างๆ ให้มีความสมบูรณ์ ปรับปรุงทักษะความสามารถด้านวิชาการ การแปลงเอกสารให้เป็นเอกสารดิจิทัล การทำระเบียบราชการทางออนไลน์และการเชื่อมโยงระหว่างการให้บริการภาครัฐทางออนไลน์กับระบบให้บริการแห่งชาติ เป็นต้น

การสร้างสรรค์รัฐบาลดิจิทัลกำลังได้รับการขานรับจากระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นทุกแห่ง เพื่อเปิดวิธีการบริหารใหม่ วิธีการปฏิบัติใหม่เพื่อใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่จากเทคโนโลยีดิจิทัล สนับสนุนการพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและยั่งยืน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด